ตอนที่ 10
เดชเดินตามนิธิมาถึงลานจอดรถหน้าร้านอาหาร จับประตูรถเธอไว้แล้วเสนอจะซื้อรถคันใหม่ให้ถ้าเธอยอมไปทำงานเป็นเลขาเขา หญิงสาวมองด้วยแววตาไม่พอใจ ย้ำเตือนอีกครั้งว่า ตนไม่ชอบคนที่ชอบเอาวัตถุเข้าข่มคนอื่น เดชยิ้มเก้อๆปล่อยมือแต่ยังขู่
“อย่าลืมว่าตอนนี้หนูพิมพ์อยู่บ้านผม ไม่ห่วงบ้างเหรอ”
“แต่เด็กในท้องก็เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของคุณ
นิเชื่อว่าคุณต้องเมตตาสะใภ้อย่างยัยพิมพ์”
เดชให้ลองคิดดูให้ดี เธอยิ้มนิดๆขึ้นรถขับออกไป เขาเข่นเขี้ยว...ทำตัวยากให้ตลอด...
ที่บ้านมธุรส เฟื่องทองเดินเข้ามา สิรินทร์และมธุรสดีใจที่เพื่อนมา เฟื่องทองโอ้อวดว่า
“มาสิ ที่ช้าเนี่ยก็เพราะคุณเดชชวนคุยอยู่นาน แหม... เขามองยัยฟ้าตาเชื่อมแล้วเชื่อมอีก น้ำตาลแทบจะท่วมบ้าน” มธุรสดีใจด้วย เฟื่องทองแขวะ “ถึงยังไงยัยฟ้าก็ไม่ได้มีวาสนาเท่าลูกสาวเธอหรอกรส นั่นน่ะคุณเดชอ้าแขนรับ
ไปอยู่ในบ้านเลย เท่ากับว่ายัยพิมพ์ตกถังข้าวสารเลย”
“โกดังข้าวในโรงสีมากกว่าหรือไม่ก็ถังข้าวสารทองคำฝังเพชร” สิรินทร์สวน
เฟื่องทองไม่ค่อยพอใจ ต่อว่ามธุรสเรื่องนิธิมา หาว่าเป็นแม่รีแม่แรดในบ้านเดช หว่านเสน่ห์ตำตาไม่เกรงใจ ปรักปรำมธุรสเป็นคนวางแผนทั้งที่รับปากแล้วว่าจะไม่ให้น้องสามีมาเป็นคู่แข่งน้องตน มธุรสคิดว่าเดชไม่มองผู้หญิงอย่างนิธิมาและนิธิมาก็ดูน่าจะลงเอยกับดัมพ์มากกว่า
เฟื่องทองหัวเราะใส่หน้า เพราะดัมพ์โดนไล่ออกจากบ้านนิธิมาจึงหันมาจับเดช สิรินทร์ต้องออกโรงปรามไม่ให้เฟื่องทองหาเรื่องมธุรส...มธุรสเรียกเกียวให้ยกของว่างออกมาแต่ไม่มีการตอบรับ จึงต้องไปตามถึงห้องหลังบ้าน เฟื่องทองยังเข่นเขี้ยวหาว่ามธุรสแผนสูง
เกียวไม่ยอมลุกจากเตียงไปรับใช้แขกของมธุรส อ้างว่าคนท้องต้องนอนพักเหมือนพิมพ์รส มธุรสเข้าหยิกสั่งห้ามเปรียบกับลูกตนมันคนละชั้น เกียวเจ็บผลักเธอกระเด็น มธุรสโกรธสั่ง
“ไปหาน้ำหาของว่างรับรองแขก คุณเฟื่องกับคุณรินทร์เขาจะได้รู้ว่าเมียน้อยที่คิดจะอยู่ร่วมบ้านกับเมียหลวงน่ะ มันเป็นยังไง”
“ไม่...หนูไม่ใช่สัตว์เลี้ยงที่คุณนายจูงไปอวดใคร รู้ไว้ด้วยว่าเพื่อนของคุณนายน่ะ น่าขยะแขยงทุกคน ขนาดหนูฟังอยู่ในห้องหนูยังแทบอ้วก...หนูกลัวว่าลูกหนูเกิดมาจะติดนิสัยไม่ดีจากเพื่อนคุณนาย” เฟื่องทองกับสิรินทร์เดินมาได้ยินมธุรสโวย
“อีเกียว! ส่องกระจกดูตัวเองบ้าง แค่ฉันยืนตรงนี้ฉันก็เหม็นกลิ่นน้ำครำจะแย่แล้ว”










