ตอนที่ 1
สีดา เมียเก็บคนสวยของเสี่ยภุชงค์ เจ้าของร้านเสริมสวยประจำบ้านโคก ร่วมกับเหล่ สาวใช้ประจำตัวช่วยกันผสมโรงด่าสี่สมุนของเสี่ยภุชงค์ที่ขโมยทองปลอม เสี่ยภุชงค์รำคาญเสียงโวยวายของเมียเก็บกับสาวใช้ตัดบทเสียงเข้ม
“ถ้ามันเป็นของจริงมันก็เป็นความคิดที่ดี แต่เอ็งแน่ใจนะว่าไม่มีใครจำพวกเอ็งได้”
“แน่ใจครับเสี่ย พวกเราปิดหน้าเป็นไอ้โม่งไม่มีใครจำพวกเราได้แน่ ตอนปล้นผมก็แกล้งทำเป็นจมูกบี้”
ปอกหนึ่งในสี่สมุนของเสี่ยภุชงค์เป็นตัวแทนตอบ ก่อนที่กุดสมุนอีกคนจะอ้ำๆอึ้งๆพูดถึงเปรียว หญิงสาวสุดห้าวลูกสาวคนเดียวของก้านกับแก้วเจ้าของคณะลำตัดประจำบ้านโคก สีดายักไหล่ไม่ยี่หระ
“อ๋อ...นังเปรียวลูกสาวยายแก้วตาก้านครูเพลงลำตัดน่ะหรือ มันจำได้หรือไม่ได้ก็ช่างมันปะไร มันจะทำอะไรได้ มันก็แค่ชาวนาจนๆคนเล่นลำตัด แต่คุณภุชงค์ของสีดาเป็นเสี่ยท่าข้าวที่กำลังจะเป็นเจ้าของสัมปทานท่าทรายเพิ่มขึ้น”
สีดาพูดเอาใจผัว เสี่ยภุชงค์กระหยิ่มยิ้มชอบใจ
“การปิดศาลาปล้นอาจเป็นการลองเชิงว่าตำบลบ้านโคกมีคนกล้าสู้กับลูกปืนไหม นังเปรียวมันเป็นผู้หญิง ถึงมันจะยิงปืนแม่นสักแค่ไหนมันก็สู้อิทธิพลมืดไม่ได้ ข้ามีจุดหมายมากกว่าข่มขวัญชาวบ้านโคก”
“เสี่ยจะทำอะไรคะ”
“จะเปลี่ยนที่นาชาวบ้านโคกให้เป็นเขตเศรษฐกิจใหม่ ยึดที่ดินชาวบ้านโคกทั้งตำบลมาขายให้นายทุนต่างชาติ!”
ooooooo
เปรียวปักใจว่าหินกับหาญเป็นโจรปล้นทองพวกชาวบ้านจะจับส่งตำรวจ สองหนุ่มพยายามอธิบายโดยมีสัปเหร่อฉุยกับพวกเด็กวัดช่วยด้วยแต่เปรียวไม่ฟังควักปืนมาจ่อยิง โชคดีหลวงตาบุญมาเจอและยืนยันว่าหินกับหาญเป็นอดีตเด็กวัดบ้านโคกแต่หายตัวไปจากบ้านเกิดเมื่อยี่สิบปีก่อน
“พวกเอ็งกลับมาก็ดีแล้ว บ้านโคกกำลังร้อนเป็นไฟเกินกิจที่พระสงฆ์จะเอาน้ำไปราดให้ดับ น้ำน่ะน้อยนักก็สู้แรงไหม้ของไฟไม่ไหว ดูเถอะ...วันพระ วันงานประจำปีของวัดมันยังไม่ละเว้นบาป ทำตัวเป็นโจรปิดศาลาปล้น”
หลวงตาบุญพูดกับหินและหาญด้วยสีหน้าเรียบเฉย มัคนายกผวนอดรนทนไม่ไหวโพล่งถาม
“เอ้อ...หลวงพ่อครับ หลวงพ่อจะไม่ถามสักคำหรือครับว่าไอ้หินกับไอ้หาญมันหายไปไหนมาตั้งยี่สิบปี”
“จะถามทำไม...ตอนนี้มันกลับมาแล้ว การรู้เรื่องคนอื่นมากไปมันก็เหมือนแบกเรื่องชาวบ้านบนบ่า...หนักไหม”










