ตอนที่ 1
สีดาใจเสีย สีหน้าสลดจนเสี่ยภุชงค์ใจอ่อนยอมพูดกับเธอ เวลาต่อมา
“จำไว้...ทีหลังอย่าตั้งคำถามที่ฉันไม่ต้องการจะตอบอีก เป็นเมียเก็บของฉันน่ะนอกจากต้องอดทนรอฉันเวลาที่ฉันต้องการเธอ เธอยังต้องรู้ว่าเมื่อไหร่ควรพูดเมื่อไหร่ควรแก้ผ้า!”
สีดาสะดุ้งก่อนรับปากจ๋อยๆ เสี่ยภุชงค์ไม่ยี่หระสั่งเสียงเรียบ
“ไปได้แล้ว ฉันต้องการเธอเมื่อไหร่ฉันจะให้คนของฉันไปรับ”
เปรียวอาสาไปส่งชายหนุ่มแปลกหน้าที่บ้านพักก่อนขอตัวกลับดื้อๆโดยไม่ถามสักคำว่าเขาเกี่ยวข้องอะไรกับปลัดอำเภอที่บ้านโคก ดนัยมองตามด้วยความประทับใจ แอบปลื้มในความห้าวแต่ใจดีของเปรียว
หินอยากหากะโหลกศีรษะที่หายไปให้เจอ
เลยย้อนไปป่าละเมาะแถวบ้านเก่า โดยไม่รู้ตัวเลยว่าเปรียวซึ่งขับรถผ่านมาจะบังเอิญเห็นและแอบตามดูเขาห่างๆ เปรียวคิดว่าเขาเป็นโจรและคงซ่อนสมบัติที่ขโมยมาในป่าเลยคิดจับผิดให้ได้คาหนังคาเขา
แต่นอกจากจะไม่ได้หลักฐานยังโดนเขาเห็นอีกต่างหาก
“ไง...เป็นคนอยู่ดีๆไม่ชอบ ชอบเป็นสัตว์สี่เท้าหรือยังไง...มาทำอะไรที่นี่”
“นายล่ะ...นายมาทำอะไรที่นี่”
“ไม่จำเป็นต้องตอบ”
“งั้นฉันก็ไม่จำเป็นต้องตอบ แต่ที่แน่ๆ...ไปมาอย่างถูกกฎหมายเพราะไปไหนพกบัตรประชาชนติดตัวทุกที่”
“ก็เลยคิดว่าคนที่ไม่พกบัตรประชาชนมาด้วยเป็นพลเมืองร้าย”
“หรือว่านายเป็นยังงั้นจริงๆ เป็นอย่างที่ฉันกับชาวบ้านสงสัยว่านายคือโจรปล้นศาลาวันนั้น”
“ผมบอกแล้วไง...ก่อนจะกล่าวหาใครคุณต้องมีหลักฐาน”
“วันนี้ยังไม่มีแต่ฉันต้องหาหลักฐานมาลากตัวโจรอย่างนายเข้าคุกให้ได้ นายกลับมาบ้านโคกวันที่มีการปล้นพอดีแล้วจะไม่ให้คิดว่านายกับนายหาญเป็นโจร...จะให้ฉันคิดว่านายเป็นใคร!”
คำพูดของเปรียวทำให้หินฉุกใจคิดถึงการปรากฏตัวของเขาที่บ้านโคก กระนั้นเขาก็ไม่พร้อมจะยอมรับความจริงว่าความแค้นที่สุมอกเป็นตัวผลักให้เขามาถึงที่นี่วันนี้
หาญซึ่งวางแผนจะเป็นนักร้องชื่อดังเห็นสภาพขะมุกขะมอมของหินเหมือนคลุกฝุ่นมาทั้งวันก็เดาได้ว่าอีกฝ่ายคงตะลุยป่าหากะโหลกชิ้นที่หายไป เขาเข้าใจความรู้สึกเพื่อนเก่าดีแต่อดเตือนสติไม่ได้โดยเฉพาะเรื่องความแค้นที่อีกฝ่ายตั้งหน้าตั้งตาจะเอาคืน หินไม่ปฏิเสธแต่ก็ไม่วายแสดงจุดยืนของตัวเอง
“ฉันแบกความตั้งใจจริงจะทำให้ท้องถิ่นนี้สะอาดมาด้วย”
อุดมการณ์ของหินทำให้ดำกับดินประทับใจแต่หาญกลับมองไม่เห็นทาง
“แล้วแกไม่กลัวลูกปืนเสี่ยภุชงค์หรือวะ ฉันน่ะยืดอกอย่างองอาจเลยว่าไม่กลัว คนเราเกิดมาตายครั้งเดียว ไหนๆจะตายแล้ว ตายเร็วตายช้าก็ตายเหมือนกัน
แต่ต้องตายอย่างมีคุณค่า...นี่แหละลูกผู้ชายตัวจริง!”










