ตอนที่ 8
ปัทม์เรียกเอ้กับมิ่งให้มาช่วย หนูตุ่นให้อารักษ์ดูแลเรื่องขวด อารักษ์ถามว่าต้องการสักกี่ขวด 100-200 พอไหม ปัทม์บอก 1,000 ขวด ทุกคนอึ้ง เอ้ถามว่าจะขายหมดภายในกี่วัน ปัทม์บอกคิดไว้สามวัน หนูตุ่นบ่นว่าบ้าไปแล้ว วันก่อนไปวางขายที่ร้านยังขายได้ไม่ถึงสิบขวด
“รับรองหมดแน่ ถ้าหมดแล้วขอให้ทุกคนช่วยกันทำชุดต่อไปเลยนะครับ” เอ้ถามว่าพี่ปัทม์เอาความคิดนี้มาจากไหน ปัทม์ตอบทันทีว่า “จากน้าพร”
ทุกคนงุนงงไม่เข้าใจว่าปัทม์จะทำอะไร อย่างไร และความคิดของน้าพรคืออะไร แต่ก็ทำน้ำสมุนไพรตามที่ปัทม์บอก
ooooooo
เมื่อได้น้ำสมุนไพรตามที่ต้องการแล้ว ปัทม์เอาใส่ถังน้ำแข็งใบใหญ่ขับรถพาเอ้กับมิ่งไป ระหว่างนั่งในรถปัทม์อธิบายให้เอ้กับมิ่งฟังว่าเราต้องทำอะไรบ้าง เอ้ตกใจไม่คิดว่าจะมีใครบ้าทำอะไรแบบนี้ ถามว่า
“พี่ปัทม์เอาจริงเหรอ”
“ถ้าไม่กล้าก็นั่งอยู่ในรถ”
ปัทม์ลงจากรถพับแขนเสื้อทะมัดทะแมงลงไปเปิดถังน้ำแข็งหยิบขวดน้ำสมุนไพรที่แช่เย็นเจี๊ยบเดินไปเคาะกระจกรถที่จอดอยู่ข้างๆ พอคนในรถลดกระจกลงปัทม์ส่งขวดน้ำสมุนไพรให้พูดหน้าตายิ้มแย้ม
“รถติดร้อนขนาดนี้ แจกน้ำสมุนไพรฟรีครับ ดื่มแก้กระหายจับใจเลยครับ”
พอคนในรถรับไปดื่ม ปัทม์ถามเป็นยังไงบ้าง เขาบอกว่าดีสดชื่นดี ปัทม์ถามอีกขวดไหม
“แบ่งคนอื่นๆบ้าง เขาจะได้หายร้อนเหมือนกัน ขายที่ไหนล่ะ”
“เร็วๆนี้ครับ ตอนนี้ให้ชิมก่อน”
เมื่อปัทม์ทำเป็นตัวอย่างเอ้กับมิ่งก็ทำตาม พอรถติดไฟแดงก็ลงจากรถเอาน้ำสมุนไพรเดินแจกรถที่ติดไฟแดง จนคนในรถเห็นปัทม์ เอ้ และมิ่งเดินมาก็เปิดกระจกรถรอรับแจกน้ำสมุนไพรกัน พอดื่มแล้วทุกคนก็คลายร้อนอารมณ์ดีขึ้น
การทำน้ำสมุนไพรไปแจกรถติดที่สี่แยกไฟแดงกลายเป็นกิจวัตรประจำวันที่ปัทม์ เอ้ กับมิ่งทำอย่างกระตือรือร้นและสนุกเพราะได้รับการตอบรับอย่างดี ปัทม์อธิบายให้ทุกคนเข้าใจว่า
“ถ้าจะทำธุรกิจมันก็ต้องมีการลงทุน การลงทุนมันก็มีความเสี่ยง ถ้าคนยังไม่รู้จักน้ำสมุนไพรของเราแล้วเขาจะรู้ได้ยังไงว่าน้ำสมุนไพรของเรามันดียังไง ถ้าของดียังไงคนเขาก็บอกต่อ”
ขณะที่ปัทม์ เอ้ กับมิ่งแจกน้ำสมุนไพรที่สี่แยกไฟแดง อารักษ์กับหนูตุ่นก็ดูและถ่ายรูปอยู่บนสะพานลอย หนูตุ่นเห็นการแจกน้ำสมุนไพรข้างล่างคึกคักก็ลงไปช่วย อารักษ์อยู่บนสะพานลอยก็ถ่ายรูปปัทม์กับหนูตุ่นแจกน้ำสมุนไพรรัวๆ แถมยังคอยบอกคนที่ข้ามสะพานลอยว่าข้างล่างเขาแจกน้ำสมุนไพรกันใครหิวก็ไปรับแจกได้เลย หลายคนกระหายน้ำเดินย้อนไปรับแจกน้ำสมุนไพรกัน










