ตอนที่ 8
แต่ปัทม์ก็ยังมองรสสุคนธ์ว่าเธอเป็นคนดีแค่เห็นแก่ตัวมากเกินไปเท่านั้น
“แล้วยังไงต่อไปคะท่าน” นักข่าวถามอย่างติดลม
“หลังเกิดวิกฤติหนักของบริษัท ท่านประธานเครียดหนักจนทำให้อาการป่วยทรุดหนักลง ผมไปเยี่ยมท่านเพื่อจัดการกับอนาคตตัวเอง”
ปัทม์เล่าว่าตนไปขอโทษที่ปล่อยให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้น และจะรับผิดชอบทุกอย่างเอง แต่ไตรคุณบอกว่าไม่ต้อง เพราะตนจะตายวันตายพรุ่งก็ไม่รู้ กิจการก็ไม่มีคนสืบทอดอยู่แล้ว ถ้ามันจะต้องจบแบบนี้ก็ปล่อยมันไปเถิด บอกให้ปัทม์ไปได้แล้วตนอยากพักผ่อน
เมื่อปัทม์เล่าความจริงทั้งหมดให้ไตรภพฟัง เขาขอโทษและยินดีรับผิดชอบทุกอย่าง
“ไม่ต้องหรอก ถ้าอยากช่วยก็ช่วยลาออกซะ”
เมื่อปัทม์ไม่ยอมลาออก ไตรภพจึงออกคำสั่งไล่ออก และขอปัทม์อย่าโทษตัวเองเลย พูดอย่างรู้สึกผิดว่า
“ถ้าจะมีใครผิด คนคนนั้นก็คือผม...ถ้าผมเชื่อพ่อทุกอย่างมันคงไม่เป็นแบบนี้...เอาล่ะ คุณไปซะเถอะ
ต่อจากนี้ขอให้คุณโชคดีแล้วกัน”
ปัทม์เล่าด้วยสีหน้าเศร้าว่า หลังจากนั้นไม่นานท่านประธานก็เสียชีวิต ตนนั่งซึมอยู่ในบ้านไม่ออกไปไหนหลายวัน ไม่กิน ไม่นอน ความเศร้าวนกลับมาในชีวิตอีกครั้ง...
“ผมนั่งทบทวนชีวิตที่ผ่านมาทั้งหมดแล้วถามตัวเองว่ากำลังทำอะไรอยู่ แล้วจะไปทางไหนต่อ”
ฝ่ายหนูตุ่นอยู่ที่ทำงาน เห็นหนังสือพิมพ์ลงข่าวบริษัทที่ปัทม์ทำงานอยู่ถูกสั่งปิดก็รีบโทร.หาปัทม์
แต่ปัทม์หมดสภาพกับความผิดหวังในชีวิตอยู่ในห้อง
ที่ข้าวของเรี่ยราดไม่มีใจที่จะรับโทรศัพท์
หนูตุ่นโทร.ครั้งแล้วครั้งเล่าก็ไม่มีคนรับสาย ร้อนใจ ทนไม่ได้ขอลางานกับ บก. หนึ่งวัน แล้วเดินอ้าวออกไปเลย
“หนู...รีบไปไหนของเขา”
อารักษ์เรียก แต่หนูตุ่นเดินอ้าวไปแล้ว
ooooooo
หนูตุ่นลิ่วไปที่บ้านเช่า เจอปัทม์นั่งหมดอาลัย ตายอยากอยู่ในห้องมืดๆ หนูตุ่นรีบไปเปิดหน้าต่างให้แสงเข้า โผเข้าให้กำลังใจ ปัทม์บอกว่าตนไม่เหลืออะไรแล้ว หนูตุ่นไปเถอะ ไปอยู่กับคนที่หนูตุ่นรักแล้วทำให้ชีวิตของหนูตุ่นดีขึ้น
ในเวลาอย่างนี้ไม่มีอะไรที่ต้องปิดบังอ้อมค้อมกันอีกแล้ว หนูตุ่นถามปัทม์ว่า
“จะให้หนูตุ่นไปจากพี่ได้ยังไงคะ ในเมื่อพี่ปัทม์คือคนที่หนูตุ่นรัก”
ปัทม์อึ้ง ถามว่าแล้วอ้นล่ะ
“อ้นคือเพื่อนที่ดีที่สุดของหนู แต่คนที่หนูรักคือพี่ปัทม์”
ปัทม์บอกหนูตุ่นว่าอย่าเสียเวลากับตนเลย ตนไม่เหลืออะไรแล้ว










