ตอนที่ 6
สมพรหัวกระแทกพื้นอย่างแรง หัวแตกเลือดคั่งในสมอง พอถึงห้องฉุกเฉินปัทม์กับรสสุคนธ์เฝ้าอยู่ หน้าห้อง
ปัทม์เล่าถึงสถานการณ์ตอนนั้นว่า...
“เป็นอีกครั้งในชีวิตที่ผมต้องเผชิญวิกฤตินับจากวันที่แม่ผมเสีย...สถานการณ์ของน้าพรตอนนั้นเป็นตายเท่ากัน และไม่มีใครรับประกันได้ว่า เมื่อฟื้นแล้วจะกลับมาเป็นปกติหรือไม่”
นักข่าวถามถึงอาการหลังผ่าตัด ปัทม์บอกว่าน้าพรก็ยังไม่ฟื้น มีอาการแทรกซ้อนหลายอย่าง อาการทรุดลงจนน่าเป็นห่วง...
“ผมนั่งเฝ้าน้าพรท่ามกลางความเงียบมาสองวัน ผมอยากให้น้าพรรู้ว่าผมยังอยู่เคียงข้างน้าพรเสมอ...”
ปัทม์เล่าว่าตนกับรสสุคนธ์จุดธูปไหว้ศาลพระภูมิในบริเวณโรงพยาบาลทั้งที่ “ผมไม่ค่อยเชื่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์อะไรในโลกง่ายๆ แต่เวลานั้น ผมทำทุกทางเพื่อที่จะพาน้าพรคนเดิมกลับบ้าน”
ปัทม์บอกรสสุคนธ์ที่เฝ้าน้าพรด้วยกันเวลานั้นว่า
“ถ้าน้าพรหาย ผมจะบวช...ผมไม่เคยบวชเลยไม่เคยได้ทดแทนบุญคุณคนที่เลี้ยงดู คนที่มีพระคุณกับผมเลย...”
ระหว่างที่ทั้งสองกำลังคุยกัน เอ้ก็วิ่งหน้าตาตื่นตกใจมาบอกว่า “พี่ปัทม์...น้าพร...” ปัทม์วิ่งตามเอ้ไปที่ห้องคนไข้ทันที แต่พอมาถึงปัทม์ก็เข่าอ่อน เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่กำลังดึงผ้าคลุมปิดหน้าสมพรที่นอนบนเตียง
“คนไข้ไม่มีอาการตอบสนองแล้ว เสียใจด้วยครับ” หมอบอก
ปัทม์โผกอดร่างน้าพรร้องไห้ รสสุคนธ์ยืนมองปัทม์ด้วยความสงสาร...
ปัทม์พูดถึงความรู้สึกที่สูญเสียว่า...
“วินาทีนั้นเรี่ยวแรงผมแทบจะหมดไป น้าพร ผู้หญิงที่มีพระคุณในชีวิตของผมอีกคนหนึ่งได้จากไปอย่างสงบ ภาพของน้าพรจะอยู่ในความทรงจำของผมตลอดไป...”
ในคืนสวดที่ศาลาวัด หน้าโลงศพประดับด้วยดอกไม้และรูปสมพร อ้ายคำกับมิ่งช่วยกันต้อนรับแขกที่มาในงาน เอ้คอยจุดธูปให้แขกไหว้ศพ
รสสุคนธ์มาถามหาปัทม์ อ้ายคำบอกว่าตนไม่เห็นเหมือนกัน พอมาถึงวัดก็หายไปเลย มิ่งถามว่าอยู่หน้าวัดหรือเปล่า เห็นนั่งอยู่นานแล้ว
ปัทม์นั่งอยู่หน้าวัดจริงๆ เขานั่งหมดอาลัยตายอยากอย่างเดียวดาย...
ปัทม์เล่าถึงอาการของตัวเองเวลานั้นว่า
“ตลอด 9 ปีที่มาอยู่ที่ไร่ ผมทำทุกอย่างเพื่อตอบสนองความฝันของน้าพร หลังจากน้าพรเสียไป ผมเริ่มไม่รู้ว่าแต่ละวันผมต้องทำอะไรและทำไปทำไม ตอนนั้นผมมีอาการที่เรียกว่า เสียศูนย์”
รสสุคนธ์ตามไปเจอ ปลอบและให้กำลังใจปัทม์ว่าตนรู้ว่าเขาเสียใจ แต่เราต้องมีชีวิตอยู่กับปัจจุบัน อดีตมันผ่านไปแล้ว กลับไปแก้ไขอะไรไม่ได้ แต่ปัจจุบันจะเป็นตัวกำหนดอนาคตของเรา พยายามพูดให้เห็นว่า
“ปัทม์ยังมีอนาคต ยังมีไร่ที่ต้องดูแล ชีวิตมันต้องก้าวต่อไป รสเชื่อว่าปัทม์ก็ต้องผ่านมันไปได้...ยังไงรสจะคอยเป็นกำลังใจให้”
ปัทม์นิ่งไม่ตอบ รสสุคนธ์บอกว่าถ้าอยู่ที่นี่แล้วไม่สบายใจไปทำงานที่กรุงเทพฯไหม ย้ำอบอุ่นว่า
“รสอยากให้ปัทม์รู้ไว้นะ ไม่ว่ายังไงรสก็จะอยู่ข้างปัทม์เสมอ”










