ตอนที่ 7
“คนไข้นอนติดเตียงเป็นเวลานาน ถ้าดูแลไม่ดีไม่หมั่นพลิกตัวบ่อยๆก็จะมีแผลกดทับ ถ้าแผลอักเสบก็จะมีกลิ่น คุณไหวไหม”
“แค่นี้เองสบายมาก” ธนาคิมเข้าไปช่วยจับตัวผู้ป่วยอย่างไม่รังเกียจ “อดทนหน่อยนะครับคุณตา ล้างแผลทำความสะอาดแล้วจะสบายตัวสุดๆ” เขาคอยพูดให้กำลังใจคนป่วย พิมพ์ชนกมองเขาอย่างชื่นชมที่ไม่มีทีท่ารังเกียจผู้ป่วยแม้แต่น้อย เริ่มมองเขาดีขึ้น...
ระหว่างออกจากบ้านผู้ป่วยติดเตียง พิมพ์ชนกขอบคุณธนาคิมมากที่มาช่วย จากนี้ไปเธอจัดการต่อเอง เขาไม่ยอมให้ทำแบบนั้น ในเมื่อรับปากน้ำฝนมาเป็นผู้ช่วยเธอแล้วก็ต้องช่วยให้ถึงที่สุดไม่อยากผิดคำพูด
“ถ้าต้องเจอคนป่วยหนักกว่านี้อีกคุณไม่กลัวเหรอ”
“กลัว...กลัวไม่ได้ช่วยมากกว่า...คุณรู้ไหม ชีวิตผมเคยตกต่ำจนถึงขีดสุดมาแล้ว ผมกับแม่ถึงกับต้องไปนอนข้างถนน โชคดีที่ครอบครัวของ...เพื่อนผมคนหนึ่งช่วยเราไว้” ธนาคิมนึกถึงพลาทิปขึ้นมาสีหน้ายิ้มแย้มเปลี่ยนเป็นเศร้าทันที พิมพ์ชนกไม่เคยเห็นเขาในแง่มุมนี้มาก่อน มองอย่างเห็นใจ
“ผมถึงรู้ดีว่าความช่วยเหลือมีคุณค่าแค่ไหน หลังจากนั้นผมก็ปฏิญาณตนว่าจะไม่ยอมพลาดโอกาสที่ได้ช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ด้วยกันเป็นอันขาด” สีหน้าและน้ำเสียงที่มุ่งมั่นของธนาคิมทำให้พิมพ์ชนกอดยิ้มให้ไม่ได้ ครั้นเขามองตอบเธอกลับไม่กล้าสบตาด้วยต้องหลบสายตา แล้วชวนเขาไปบ้านหลังอื่นกันต่อ
ทันใดนั้นมีโจรในคราบชาวบ้านวิ่งกระหืดกระหอบเข้ามาขอให้ทั้งคู่ช่วยพี่ชายของตนด้วย...
ฝ่ายเขมจิรากับลูกชิ้นเดินตามหาธนาคิมจนมาเจออานนท์กับริสาที่เพิ่งเยี่ยมชาวบ้านเสร็จ ลูกชิ้นปากไวถามทั้งคู่ว่าเห็นธนาคิมหรือเปล่า อานนท์ไม่พอใจที่เขมจิราถามหาธนาคิมทั้งที่ตกลงกันแล้ว ตอบเสียงห้วนว่าไม่เห็น จังหวะนั้นน้ำฝนมาทันได้ยินพอดีบอกว่าธนาคิมไปเป็นผู้ช่วยพยาบาลให้พิมพ์ชนกแทนเธอที่ติดเคสด่วน เขมจิราไม่พอใจมากถามว่าตอนนี้สองคนนั่นอยู่ที่ไหน...
คนที่เขมจิราตามหากำลังเดินตามโจรในคราบชาวบ้านลึกเข้าไปในป่า ธนาคิมชักเอะใจตกลงจะพาเราสองคนไปไหนกันแน่ โจรเห็นความแตก ชักปืนขึ้นมากระชับในมือ
“ไม่น่าทำให้เป็นเรื่องเป็นราวเลยนะหมอ” โจรเอาปืนขู่ให้ทั้งคู่เดินต่อไป
ooooooo










