ตอนที่ 7
ริสากำลังช่วยกันทำความสะอาดอุปกรณ์ทางการแพทย์เตรียมไว้สำหรับตรวจรักษาคนไข้วันพรุ่งนี้ พยาบาลอาสาคนหนึ่งวิ่งหน้าตื่นเข้ามาบอกว่าแย่แล้ว ทางโน้นฟัดกันใหญ่ พิมพ์ชนกรีบวิ่งออกไปทันทีโดยมีน้ำฝน ริสาและพยาบาลวิ่งตาม
ที่สนามเตะบอลชั่วคราว ธนาคิมกับอานนท์ยังคงเปิดศึกกำปั้นกันอย่างไม่มีใครยอมใคร เด็กๆแบ่งเป็นสองฝ่ายส่งเสียงเชียร์กันสนุกสนาน เขมจิรายืนร้องกรี๊ดๆไม่กล้าเข้าไปห้าม ชาวบ้านก็กลัวเช่นกันขืนเข้าไปห้าม พลาดพลั้งจะถูกลูกหลงเอาได้ เขมจิราไม่รู้จะทำอย่างไร หันไปสั่งลูกชิ้นเข้าไปห้ามที
“ไม่เอาหรอกค่ะ คุณเขมไม่เคยได้ยินเหรอคะเวลาหมากัดกันอย่าเข้าไปห้ามเด็ดขาดเดี๋ยวจะเจอลูกหลง”
“อีบ้า...พี่คิมเป็นคนไม่ใช่หมา”
“ฟัดกันขนาดนี้ไม่ใช่หมาก็กึ่งๆแล้วล่ะค่ะ”
ด้านพิมพ์ชนก ริสาและน้ำฝนวิ่งเข้ามาเห็นแต่คนเชียร์ไม่มีใครห้าม ปรี่เข้าไปช่วยกันห้าม สองหนุ่มเลือดเข้าตาไม่มีใครฟัง พิมพ์ชนกทนไม่ไหวกระชากทั้งคู่ออกจากกัน สองหนุ่มสู้ติดพันไม่ยอมเลิกจะชกต่อยกันอีก พิมพ์ชนกเข้าไปกั้นกลาง ตบหน้าทั้งคู่คนละทีเพื่อเรียกสติ
“จะพอกันได้รึยัง...ไม่เห็นหรือว่าเด็กๆอยู่กันเต็มไปหมด นี่พวกคุณเอาอะไรคิดทำไมถึงไม่มีสติรู้จักยับยั้งชั่งใจบ้าง พวกคุณเป็นตัวอย่างให้อนาคตของชาติที่ยืนอยู่ตรงนี้ด้วยวิธีแย่ๆแบบนี้เนี่ยเหรอ ฉันผิดหวังในตัวพวกคุณจริงๆ” พิมพ์ชนกเกรี้ยวกราดอย่างที่ไม่เคยมีใครเห็นมาก่อน ธนาคิมกับอานนท์ได้คิดหันมองเด็กๆที่ยืนสลอนก็รู้สึกผิด ทั้งคู่ขอโทษเธอด้วย พิมพ์ชนกไม่คิดว่าแค่ขอโทษจะเพียงพอ ทั้งคู่มองหน้ากันแปลกใจ...
พิมพ์ชนกลงโทษธนาคิมกับอานนท์ที่เป็นตัวอย่าง ไม่ดีให้กับเด็กๆ ด้วยการให้ตักน้ำจากลำธารไปใส่ตุ่มในห้องน้ำแล้วยืนคุมไม่ให้แตกแถว ริสากับน้ำฝนหันไปสอนเด็กๆว่าคนที่ใช้ความรุนแรงตัดสินปัญหาต้องถูกลงโทษ ให้เด็กๆดูไว้อย่าเอาเป็นเยี่ยงอย่างเด็ดขาด เด็กๆมองสองหนุ่มที่แบกน้ำเดินผ่านหน้าไปด้วยความขบขัน แถมพากันสมน้ำหน้า ก่อนจะหัวเราะคิกๆ ริสากับน้ำฝนพลอยหัวเราะขำไปด้วย เขมจิราเข้ามาโวยวาย
“ทำเกินไปแล้วนะพิม ตัวเองมีสิทธิ์อะไรจะไปลงโทษเขาแบบนั้น”










