ตอนที่ 14
เมธัสชะงัก เริ่มรู้สึกว่าพูดเลยเถิดไปมาก “เลิกคุยเรื่องของผม มาคุยเรื่องปัญหาระหว่างเราดีกว่า...เชิญ”
“ถึงคุณจะไม่ใช่ผู้ทำผิดตามกฎหมาย แต่เรื่องมันเกิดในที่ของคุณ ถ้าผมฟ้องร้องขึ้นมา ยังไงคุณก็เสียเครดิต”
“แต่ค่าเสียหายของคุณมันมากเกินไป ผมจ่ายให้คุณก็เท่ากับเสียค่าโง่”
“แต่ถ้าคุณไม่จ่าย เราก็ต้องไปเจอกันในศาล”
“นี่คุณพยายามไล่ต้อนผมให้จนมุมใช่ไหม”
“ผมแค่ปกป้องสิทธิ์ของผม คุณเองก็เป็นนักธุรกิจ คุณน่าจะเข้าใจ”
“สงสัยว่าผมจะคุยกับคุณดีๆ ตกลงกันไม่ได้ซะแล้ว”
“นี่คุณกำลังขู่ผมเหรอ”
“ขู่ทำไม ผมทำจริงอยู่แล้ว เมื่อการเจรจาไม่สำเร็จ มันก็ต้องไปถึงอีกขั้นหนึ่งที่ผมต้องตอบโต้คุณ”
สองคนปะทะสายตาอย่างไม่มีใครยอมใคร ศรุตกับปิ่นมณีเดินเข้ามาขัดจังหวะ ตามด้วยเขตแดนกับเมษาริน นครินทร์กับเมธัสงงงวย แต่เขตแดนก็ทำให้ความงงนั้นเลือนหายด้วยการชวนทุกคนเตะบอลกระชับมิตรก่อนจะเจรจาปัญหาอีกยก
ในขณะเตะบอล ทุกคนที่รู้เรื่องต่างจับตามองนครินทร์เป็นพิเศษ อีกทั้งเขตแดนก็พยายามสร้างสถานการณ์ให้เมธัสกับเมษารินแสดงความรักต่อกันฉันพ่อลูก ทำให้นครินทร์ยิ่งหลุดความแค้นที่อัดแน่นในใจ ก่อนจะทนดูไม่ไหวขอตัวกลับไปโดยยังไม่เจรจาหาข้อยุติปัญหาที่คาราคาซัง
เขตแดนพอใจกับแผนการในวันนี้มาก กิริยาท่าทางของนครินทร์ทำให้มั่นใจมากว่าเขาคือบอลตัวจริงลูกชายของเมธัสที่หายสาบสูญไป แต่ถึงกระนั้นเขตแดนก็ยังไม่มีหลักฐานที่ยืนยันกับใครได้อยู่ดี ได้แต่บอกศรุตขณะอยู่ด้วยกันตามลำพัง
“เห็นแล้วใช่ไหมครับคุณรุต”
“ครับ นายนครินทร์จ้องเมกับคุณลุงตลอด เขาเกือบจะควบคุมตัวเองไม่ได้”
“ผมมั่นใจว่าเขาคือนายบอลแน่นอน เหลือแค่หาหลักฐานมายืนยัน”
“จะมีทางล่อให้เขายอมรับออกมาเองไหมครับ”
“คงยากครับ กว่าจะมาถึงจุดนี้เขาคงผ่านอะไรมาเยอะ และที่ผ่านมาเขาก็ปกปิดตัวเองได้มาตลอดคนอย่างนครินทร์ไม่ใช่คนที่จะพลาดท่าให้ใครได้ง่ายๆ”
“หมอนี่เป็นตัวอันตรายจริงๆ”
“ตอนนี้เราคงทำได้แค่ตั้งรับให้ดี ไม่ว่าเขาจะทำอะไรอีก เราต้องเตรียมพร้อม”
“ครับ มองในแง่ดี อย่างน้อยเราก็คนเยอะกว่า ช่วยเป็นหูเป็นตาให้กันได้”










