ตอนที่ 13
ตะวันเอาแก้วเหล้ามาส่งให้หาญลองดื่ม ทั้งหมดดื่มกินกันแบบสนุกสุดเหวี่ยง พอเมาได้ที่ตะวันชวนเปรียวไปสนุกกันต่อที่ห้องนอน วิภูษาเมากรึ่มอยู่บนโซฟาโบกมือบ๊ายบายให้เพื่อนแล้วเดินเซเข้าห้องตัวเอง ล้มตัวนอนทับหาญที่เมายาไม่แพ้กัน จากนั้นทั้งคู่ได้เสียกันเพราะฤทธิ์ยาเสพติด
ooooooo
ดุสิตาเห็นเดชายังเศร้าเรื่องบัวไม่หาย จึงชวนไปเป็นจิตอาสาให้ชมรมของมหาวิทยาลัย ซักเสื้อที่มีคนเอามาบริจาคเพื่อส่งต่อให้กับผู้ยากไร้ที่ต้องการ
“สิตามาช่วยงานที่ชมรมนี้บ่อยหรือ”
“เวลาสิตาไม่สบายใจสิตาก็จะมาค่ะ พอเราได้ทำอะไรให้คนอื่น มันทำให้เรารู้สึกว่าตัวเองมีค่า ความทุกข์ที่เราเจอก็เลยกลายเป็นเรื่องเล็กน้อยไปทันที” ดุสิตาเห็นเดชาจ้องตัวเองไม่วางตาถามว่าใบหน้าเธอมีอะไรหรือ เขาได้แต่ยิ้มไม่ตอบ รู้สึกทึ่งในความคิดดีงามของเธอ...
ทางด้านเพ็ญพธูรู้เรื่องที่พงศ์ระพีเป็นพ่อสื่อให้พันชอบพอกับบัว ต่อว่าเขาว่าจะเป็นสุภาพบุรุษไปถึงไหน ตอนแรกก็เพื่อวิภูษา ตอนนี้ก็เพื่อน้อง ความรักไม่ใช่สิ่งของที่เที่ยวไปยกให้ใครต่อใครได้ เขาไม่อยากพูดเรื่องนี้อีก บอกเธอให้สนใจตัวเองจะดีกว่า ข้าวก็ยังไม่ได้กินมานั่งเทศนาคนอื่นอยู่ได้ อุตส่าห์ไปซื้อของกินมาจากร้านอร่อย แล้วเทอาหารที่ซื้อใส่จานมาวางตรงหน้าเพ็ญพธู สั่งให้กินเข้าไปเยอะๆจะได้หายเร็วๆ
“ถ้าคุณไม่พูด ฉันไปพูดให้เอง” เพ็ญพธูว่าแล้วลุกขึ้นจะออกจากห้อง พงศ์ระพีวิ่งไปขวางไว้ขอร้องอย่าทำอย่างนั้น เขาจะแย่งคนรักของน้องชายได้อย่างไร...
วิภูษาตื่นขึ้นมาเห็นสภาพเปลือยเปล่าของตัวเองที่มีหาญนอนอยู่ข้างๆในสภาพเดียวกัน ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น สั่งให้เขาปิดปากให้สนิทห้ามพูดเรื่องนี้ให้ใครรู้ แล้วรีบเดินเข้าห้องน้ำ หาญมองตามติดใจรสสวาทของเธอ...
ผ่านไปไม่นาน รจนาออกจากห้องตัวเองเห็นหาญนั่งกินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปอยู่ที่โต๊ะอาหาร ร้องทักว่าเมื่อคืนหายไปไหน ตนออกมาเข้าห้องน้ำไม่เห็นเขานอนที่โซฟา หาญอึกอักคิดหาคำโกหกไม่ทัน วิภูษาเปิดประตูห้องตัวเองออกมาพอดี ชิงตอบคำถามแทนว่าเขาออกไปเที่ยวต่อข้างนอกเพิ่งกลับมาเมื่อเช้า
“ใช่...ผมเพิ่งกลับ” หาญรับสมอ้าง วิภูษาเดินไปเปิดตู้เย็นเจอแต่ความว่างเปล่าโวยวายว่าทำไมไม่มีอะไรกินเลย นมสักกล่องขนมปังสักชิ้นก็ไม่มี รจนาแดกดันมีน้ำเปล่าให้ดื่มก็บุญแล้วตอนนี้ไม่มีเงินเหลือสักบาท
“ไรวะ ก็ฉันเททั้งสร้อยทั้งแหวนให้แกไปขายแล้วไง”
“โอ๊ยก็ขุ่นแม่เล่นกินแต่ของแพงๆ แกงถุงแกงถังก็กระเดือกไม่เป็น เงินมันจะไปเหลือได้ไง แล้วนี่ค่าเช่าห้องก็ยังไม่รู้จะขุดเอาจากไหนมาจ่ายเลยด้วยซ้ำ”
ooooooo
วรรณพรเข้ามาที่ห้องโถงเรือนเล็กเห็นจิตรากำลังนั่งจัดดอกไม้ ถามหาปวีณอยู่หรือเปล่า จิตราส่ายหน้าบอกว่าไปทำงานยังไม่กลับ เรียกให้เธอมานั่ง ด้วยกันก่อน วรรณพรไม่วายแดกดันนี่จิตรายังมีอารมณ์สุนทรีย์มานั่งจัดดอกไม้อยู่อีกหรือทั้งที่เป็นคนยุยงส่งเสริมให้ผัวเมียแตกแยก พ่อไปทางลูกไปทาง
“มีแต่คนโรคจิตเท่านั้นถึงนั่งมีความสุขอยู่ได้”










