ตอนที่ 10
“มันคงเบื่อเอ็งล่ะสิ”
“กระผมสิขอรับเบื่อมัน”
“เรื่องอะไร”
“มันขี้บ่น ห่วงโน่นห่วงนี่ กระผมจะไปไหนทีเหมือนจะตาย”
“เมียที่ผัวไปตายในสงครามก็มีอยู่นะพันสิงห์ น่าเห็นใจเขา...เรือนเจ้าคุณพลเทพโน่น...มีคนมาหาเยอะอยู่”
“คงไม่ใช่มาขอไปออกศึกแบบเราหรอกขอรับ”
เมื่อหลวงไกรมาขอไปรบที่วัดพิชัย เจ้าคุณพลเทพอยู่กับขุนทิพพอดี เจ้าคุณตอบชัดถ้อยชัดคำว่าไม่ให้ไป
“เหตุผลขอรับ”
“เหตุผลรึ”
“ขอรับ ในเมื่อกระผมอาสาไปรบเพื่อป้องกันกรุงตามหน้าที่ทหาร มิมีการใดเป็นโทษเลย มีแต่ประโยชน์ทั้งสิ้น”
“มิใช่กงการของเอ็ง...ไม่ให้ไป”
หลวงไกรนิ่งอึ้งมาก ร่างกายชาวาบด้วยความโกรธ นั่งไม่ขยับตัว
“เฮ้ย...เอาน้ำมาล้างชานเรือน ขี้ดินขี้โคลนสกปรกเลอะเทอะบ้านเจ้าคุณท่าน” ขาดคำของขุนทิพ บ่าวชายสาดน้ำมาทันที โดนหลวงไกรกับพันสิงห์เต็มๆ
ขุนทิพหัวเราะเยาะ แต่หลวงไกรข่มความโกรธลุกขึ้นเดินหันหลังกลับจะลงเรือนพร้อมพันสิงห์ แต่ขุนทิพยังหัวเราะไม่เลิก หลวงไกรถึงบันไดพอดีจะ
ก้าวลงอยู่แล้ว หันหลังกลับอย่างเร็วเหมือนวิ่งจนพันสิงห์ห้ามไม่ทัน ขุนทิพกระโดดหนีแต่หลวงไกรเร็วกว่า ถึงตัวเสยหมัดเข้าปลายคางเต็มแรง
แล้วหลวงไกรก็เดินองอาจลงเรือนไปโดยพวกบนเรือนเงียบไม่มีใครกล้าขยับสักคน มีแต่เสียงขุนทิพด่าโขมงตามหลัง
“ไอ้ไกร ไอ้คนพาล ไอ้สันดานหยาบ ไอ้เลว... ไอ้...มองอะไรวะ โน่น...ทำไมไม่ช่วยกันกำราบไอ้นักเลงโต มันต่อยกูเห็นหรือไม่”
“เขาต่อยท่านขุน”
“เออสิวะ มึงจะย้ำทำไม”
“ท่านขุนก็ต้องเป็นคนต่อยเขาสิขอรับ”
“พวกกระผมเกี่ยวอะไรขอรับ”
บ่าวเรือนเจ้าคุณสองคนก้มหน้าพูดไม่กล้าสบตา ขุนทิพโมโหคว้าข้าวของตรงนั้นปาโครมๆ ส่วนหลวงไกรจะลงเรือที่พันสิงห์ถือพายรอ แต่ต้องชะงักกับเสียงตะโกนของเจ้าคุณพลเทพ
“เฮ้ยไอ้ไกร...หยุด”
หลวงไกรเพียงแค่ชะงัก แต่ก้าวลงเรือไปเหมือนไม่ได้ยิน
“กูบอกให้มึงหยุด บังอาจทำร้ายขุนทิพเขานะมึง กลับมารับโทษ”
หลวงไกรไม่ฟัง พยักหน้าให้พันสิงห์พายเรือออกไป ทิ้งให้เจ้าคุณพลเทพเต้นแร้งเต้นกาอยู่ตรงนั้นนั่นเอง
แต่เมื่อหลวงไกรไปรายงานตัวต่อพระยาตากว่าตนอาสาไปทัพกับท่าน พระยาตากเพ่งมองหน้าคมสันของชายหนุ่มอย่างพินิจพิจารณาก่อนเอ่ยขึ้นว่า
“หลวงไกรสรเดช...ฉันรู้เรื่องของออเจ้าแล้ว”
“ขอรับ กระผมไม่กลัว ยินดีรับโทษ”
“มันไม่ใช่แค่นั้นสิหลวงไกร อย่าแลกกับเขาเลย ไม่คุ้มหรอก”
หลวงไกรได้คิดสีหน้าสลดลง ถอนใจยาว










