ตอนที่ 10
หลวงไกรปลอบโยนดาวเรืองครู่หนึ่งก่อนจะ
พากันออกจากห้องมายังมุมประจำของคุณย่า...
สองมือของดาวเรืองลูบไล้พื้นกระดานด้วยความ
รู้สึกอาลัยอาวรณ์
“คุณย่านั่งตรงนี้ค่ะพี่ไกร ทุกวันจนกระดานมันเป็นเงาเห็นไหมคะ สอนสั่งดาวเรืองสารพัดเรื่อง ทั้ง
หนังสือหนังหา ทั้งงานช่างประดิดประดอย ทั้งเรื่องราวสมัยก่อน ขุนหลวงองค์โน้นเป็นอย่างนี้ องค์นี้เป็น
อย่างโน้น...ไม่มีใครเสมอเหมือนคุณย่า”
“ดาวเรือง...ร้องไห้ฟูมฟายอย่างนี้คุณย่าไม่เป็นสุข คุณย่าอยากให้หลานรักเข้มแข็ง ไม่ใช่อ่อนแออย่างนี้”
“พี่ไกร ดาวเรืองไม่อยากร้องเลย...ไม่อยากเลย... แต่พี่ไกรขา คุณย่าพูดไว้ว่า...ขออย่าให้เป็นดั่งคำเพลงยาวพยากรณ์ ขอพระเสื้อเมืองทรงเมือง เทวดาที่รักษาเมือง รักษาพระศาสนา อีกอดีตพระมหากษัตริย์ผู้ทรงกอบกู้บ้านเมือง ขอจงเสด็จมาคุ้มครอง หากแม้นคำทำนายนั้นจะเป็นจริง ก็ขอตายก่อนเถิดเจ้าประคุณ”
“คุณย่ารู้เรื่องอะไรหรือดาวเรือง”
“ค่ะพี่ไกร คุณย่ารู้ค่ะ เคยพูดกับดาวเรืองว่าเราจะประมาทไม่ได้เลย ข้าศึกเข้มแข็งนัก”
หลวงไกรได้ฟังยิ่งวิตกกังวล เพราะเห็นกับตาตนมาแล้วว่าทัพพม่าแข็งแกร่งจริง
ooooooo
นอกจากจะเข้มแข็งแล้ว สองแม่ทัพพม่า
อย่างมังมหานรธากับเนเมียวสีหบดีก็วางแผนลึกล้ำไม่ยอมถอยทัพในฤดูน้ำหลากอย่างที่ชาวกรุงศรีอยุธยาคาดคิด แต่ย้ายไปอยู่บนที่โคกที่ดอนแล้วหาทางต่อยตีค่ายรอบนอกกรุงได้เกือบหมด
กองทัพไม่ได้หิวโหยเพราะมีเสบียงเพียงพอจากการให้ทหารหว่านข้าว ปลูกพืชผักและเลี้ยงสัตว์ อีกส่วนได้จากไส้ศึกที่ส่งเข้ามาให้
ศึกสงครามยืดเยื้อน่ากลัวมากขึ้นทุกที วันหนึ่งปริกแตกตื่นร้องเรียกลูกชายลั่นไปทั้งเรือน ขุนทิพรู้ว่าแม่กลัวแต่ย้ำคำเดิมว่าตนมีทางหนีทีไล่ มิ่งซึ่งสงสัย
มานานพยายามแอบฟังมาตลอด จนกระทั่งวันนี้เอง
ที่ได้ยิน
“แม่อย่ากลัวไปเลย ฉันเตรียมทางหนีทีไล่ไว้แล้ว”
“แม่กลัว เจ้าต้องช่วยแม่ แม่จะไปอาศัยใครดีนี่... บ้านพระสุวรรณ โอย...ไม่กล้าอีกแล้ว พระสุวรรณต้องฆ่าแน่ๆ”
“เลิกพูดถึงบ้านโน้นเสียที”
“ไม่ควรไปก่อเหตุกับเขาเลย”
“แม่...ขอนะ อย่าพูดถึงบ้านโน้น เจ็บใจไม่หาย”
“เจ้าเจ็บแค้นหลวงไกรไม่รู้จบสิ้น เรื่องเก่าก่อนน่าจะอภัยกันนะลูก ถึงแม่จะรู้ว่าเจ้าติดเนื้อต้องใจดาวเรือง ก็ป่วยการคิด ถึงไม่มีผัวเขาก็คงไม่ยกให้ ดาวเรืองเป็นเมียหลวงไกรแล้วนะลูก”
ขุนทิพแทบบ้าคลั่งด้วยอารมณ์ริษยาที่มีขึ้นมาเป็นระลอก ฟังแม่บ่นอย่างขุ่นมัว
“ศึกประชิดกรุงอย่างนี้ มัวแต่เอาเรื่องส่วนตัวมาขวาง บ้านเมืองจะอยู่รอดหรือลูก อย่าอาฆาตแค้นเขาเลย เป็นเวรเป็นกรรมบาปหนาเปล่าๆปลี้ๆนะลูกนะ”
“เรื่องราชการของฉัน ใครดีใครได้ แม่ไม่เกี่ยว อย่ายุ่ง”
“สงครามคราวนี้เราจะแพ้ใช่ไหมพ่อด้วง” ปริก
ถามเสียงเครือ ขุนทิพนิ่งคิดจะบอกหรือไม่บอกดี “ถ้าแพ้ข้าศึกจะทำยังไงดี...ทำไงดี สมบัติพัสถานออกมากมายหมดตัวแน่”










