ตอนที่ 9
เวหาแนะนำตัวเองในชื่อใหม่ ทอรุ้งพูดแซวๆว่ากว่าจะชินกับชื่อใหม่คงอีกนาน เวหาบอกไม่นานหรอกสมัยก่อนเราสนิทกันจะตายรุ้งจำได้ไหม...แล้วตอนนี้พี่ก็ชอบรุ้ง ผ่านมาหลายปี รุ้งรู้ไหมว่าพี่ก็ยังรู้สึกกับรุ้งเหมือนเดิม ทอรุ้งบอกว่าตนไม่เคยคิดกับเขาเกินกว่าพี่ชาย เวหาตัดพ้อว่าทำไมไม่เปิดใจให้ตนบ้าง
ทอรุ้งไม่ตอบแต่ถามถึงภูผา เวหาฉุนกึกกระชากเสียงว่าถามถึงมันทำไม พอตั้งสติได้ก็เล่าว่า
“ตั้งแต่ภูผาไปได้ดิบได้ดีก็ไม่ได้กลับบ้านเลย นานๆถึงจะส่งเงินมาให้ที พี่ก็เลยไม่ค่อยรู้เรื่องเขาเท่าไร” ทอรุ้งเปรยว่าท่าทางเขาจะงานยุ่ง “หรืออาจจะลืมคนที่นี่แล้วก็ได้ รุ้งไม่ได้ไปเจอเขาเหรอ”
ทอรุ้งบอกว่าไปแต่ไม่เจอ นัดก็ไม่มา เวหาได้ทีถล่มภูผาว่า
“มันก็เป็นคนอย่างนี้แหละ มีแฟนแล้วก็ลืมบ้าน” ทอรุ้งถามว่าแฟนหรือ? “ต้อยติ่งไง จำได้ไหม ทีแรกก็ให้ไปช่วยงานพักเดียวก็จับเป็นแฟน”
ทอรุ้งทนฟังไม่ได้ขอตัวไปทำงาน เวหาบอกว่าคืนนี้ตนจะพาไปเลี้ยงข้าว นัดเลยว่าเลิกงานแล้วตนจะไปรอที่แผนก พูดแล้วยิ้มอารมณ์สมใจผละไปอย่างเร็วจนทอรุ้งปฏิเสธไม่ทัน
ooooooo
วันนี้ภูผาพาอาม่าไปโรงพยาบาลพิทักษ์ราษฎร์ เห็นเวหาเดินผ่านไปก็ทัก
“ไปเจอป๊ากับอาม่าหน่อยสิ” เวหาตอบทันทีว่าตนไม่มีญาติพี่น้องและไม่รู้จักเขาด้วย “ถ้าแกไม่ไป ฉันจะประจานแกทั้งโรงพยาบาลว่าแกมันวัวลืมตีนเป็นคนเนรคุณ”
ภูผาพูดดังจนพยาบาลที่เดินผ่านไปมาหันมอง เวหาจึงจำต้องยอมอย่างเจ็บใจ
พอไปเจอเส็ง เดือนและอาม่าที่หน้าห้องพักคนไข้ เวหาถามเสียงไม่พอใจว่า
“จะให้อั๊วทำอะไร”
“ไปขอโทษอาม่า บอกว่าสำนึกผิดแล้ว แล้วจะกลับมาอยู่บ้าน” เส็งพูดทันที
เวหาถามว่าจะให้ตนโกหกหรือ ตนทำไม่ได้ เดือนเตือนสติว่าอาม่าแก่มากแล้ว หลงๆลืมๆจนต้องพามาให้หมอตรวจที่นี่ ขอให้ทำให้อาม่าสบายใจเถอะ เวหาบ่นว่าโรงพยาบาลตั้งเยอะแยะทำไมต้องมาที่นี่ ถามว่าถ้าตนกลับไปจะมีประโยชน์อะไร ดีไม่ดีอาม่าลืมตนไปแล้วด้วยซ้ำ เส็งอดกลั้นอารมณ์ หว่านล้อมว่า
“อาม่าอาจจะลืมกินข้าว อาจจะลืมทางกลับบ้าน บางทีก็อาจลืมชื่อตัวเอง แต่ที่อาม่าไม่เคยลืมเลยก็คือไม่ลืมว่ามีหลานสองคน ทุกเช้าอียังใช้ให้อั๊วไปปลุกลื้อให้ไปโรงเรียน ตอนเย็นก็บอกให้แม่ลื้อทำกับข้าวเยอะๆ กลัวว่าหิวกลับมาแล้วจะกินไม่อิ่ม ตั้งแต่พวกลื้อเกิดอีก็ไม่เคยนึกถึงตัวเองเลย นึกถึงแต่พวกลื้อตลอด นี่ไม่นึกเลย...ไม่นึกเลยว่าลื้อ...” เส็งสะเทือนใจร้องไห้จนพูดไม่ออก เดือนจึงพูดต่อ










