ตอนที่ 7
“คุณรู้ใช่ไหม ปัญหาระหว่างฉันกับคุณมันจะมีอะไรๆตามมาอีกเยอะ”
ปพลไม่แคร์ ในเมื่อเรื่องนี้เป็นเรื่องของเขากับเธอสองคน หรือเธอเป็นห่วงความรู้สึกของตั้มกับอานนท์ เธอย้ำหนักแน่นทั้งสองคนนั่นเป็นแค่เพื่อนที่ดีของเธอเท่านั้น ปพลขอแค่ถ้ามีปัญหาอะไรเกิดขึ้นก็ตาม ขอให้เธออดทนและสู้ไปด้วยกันอย่าเดินหนีเหมือนทุกครั้งที่เธอชอบทำได้ไหม
ปานตะวันกังวลใจอยู่ก็เลยนิ่ง
“เธอทำให้ฉันเปลี่ยนไปขนาดนี้เธอต้องรับผิดชอบ เข้าใจไหม”
ปานตะวันโวยนี่เขากำลังสั่งเธออยู่ เขายอมรับว่าใช่ และยอมรับอีกด้วยว่าเป็นคนขี้โมโหและหากเขาโมโหขึ้นมาเธอคงรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นแล้วรวบตัวเธอเข้ามาจะจูบ เธอหลบทันชวนให้เขากลับได้แล้ว...
ดอกรักกำลังบานในใจปพลและปานตะวัน ก่อนนอนต่างส่งไลน์หากันอย่างมีความสุข เขาไม่วายไลน์มาสั่งเธอ ต่อไปนี้อยู่ไหนทำอะไรต้องรายงานเขาตลอด
ooooooo
จันทนีตกใจแทบช็อกเมื่อรู้จากปัทมาว่ารพีพรมาที่บ้านเมื่อวานนี้ วิ่งแจ้นไปหาปานตะวันถึงห้องนอนบอกว่าจะย้ายบ้าน ในเมื่อเธอเป็นนักร้องมีเงินแล้วควรจะหาที่อยู่ให้ดีกว่านี้หน่อย
“แม่...ปานยังไม่ได้มีเงินเยอะขนาดนั้น”
“โอ๊ย ก็ไปขอคุณอานนท์อะไรนั่นก่อนก็ได้ กูว่าเขาคงไม่มีปัญหา”
“ไม่ได้นะแม่ เอาเป็นว่าเราค่อยคุยเรื่องนี้กัน ปานต้องไปทำงานแล้วรถมารับแล้ว” ปานตะวันยิ้ม ให้แม่ ก่อนผละไป ปัทมาที่อยู่ฟังด้วยตั้งแต่แรกอดสงสัยไม่ได้แม่จะย้ายบ้านทำไม จันทนีไม่ตอบเดินเลี่ยงไปอีกทาง ปัทมาตามจิกไม่เลิกที่แม่จะย้ายเพราะผู้หญิงคนนั้นมาหาพี่ปานใช่ไหม แล้วเธอเป็นใครอะไรอย่างไร
“โอ๊ยไม่รู้โว้ย อย่ามาเซ้าซี้ รำคาญ” จันทนีเดินหนีไปอย่างหงุดหงิดและเป็นกังวลกลัวรพีพรจะมาเอาตัวปานตะวันที่กำลังจะมีชื่อเสียงไปจากตัวเอง...
วันนี้ปานตะวันกับเพื่อนๆมีงานโชว์ตัวที่ห้าง กลางกรุง มีแฟนคลับไปให้กำลังใจอย่างคับคั่งเช่นเคย หลังโชว์เสร็จมีเสียงมือถือของปานตะวันดังขึ้น เธอหยิบขึ้นมาดูเห็นเป็นเบอร์ของปพล เดินเลี่ยงไปรับสาย สักพักกลับมาบอกมินจู เดี่ยวและตั้มว่าไม่กลับรถบริษัทด้วยจะกลับเองแล้วเดินลิ่วไปเลย ตั้มมองตามอย่างสงสัยใคร่รู้ว่าเธอกำลังจะไปไหนกันแน่...
ปานตะวันไปหาปพลที่คอนโดฯ เข้าครัวช่วยกันทำอาหารกลางวัน ตั้งแต่ตกลงคบหากัน ปพลเปลี่ยนสรรพนามแทนตัวเองและแทนปานตะวันจากฉันกับเธอ เป็นผมกับคุณ กินข้าวเสร็จปานตะวันใช้ให้เขาล้างจานอีกด้วย เขาบ่นอุบถ้าเป็นเมื่อก่อนเธอไม่มีสิทธิ์ใช้เขาแบบนี้
“งั้นกลับไปเป็นเหมือนเมื่อก่อนไหมคะ”
“ใจร้าย” ปพลบ่นจบเก็บจานไปล้าง ปานตะวันยิ้มชอบใจที่เขาว่านอนสอนง่าย แล้วเดินไปนั่งที่โซฟาเปิดทีวีดูระหว่างรอเขาล้างจาน สักพักใหญ่ปพล ล้างจานเสร็จเดินมานอนหนุนตัก เธอไล่ให้เขาไป อาบน้ำก่อน เขาส่ายหน้าไม่ยอมทำตาม หยิบรีโมต มาปิดทีวี ปานตะวันต่อว่าเขาว่าจะนอนก็นอนไปทำไมต้องปิดทีวีด้วย
“ผมอยากฟังคุณร้องเพลง ผมเบื่อที่ต้องเปิดทีวีนอนเป็นเพื่อนทุกครั้ง คุณรู้ไหมเมื่อก่อนเวลาผมนอนไม่หลับ ผมเหงาผมอยู่คนเดียว ผมต้องเปิดทีวีทิ้งไว้เป็นเพื่อนเพื่อให้รู้ว่าผมไม่ได้อยู่คนเดียว”
พลันภาพในอดีตผุดขึ้นมาในความคิดคำนึงของปพล ตอนนั้นเขาอายุแค่ 6 ขวบ ตกใจตื่นเพราะฝันร้ายเห็นผี หอบหมอนไปหาพ่อที่กำลังง่วนกับการทำงานเพื่อขอนอนด้วยเพราะกลัวผี ท่านไม่ไยดีไล่เขากลับไปนอนห้องตัวเอง เป็นผู้ชายกลัวอะไรกับเรื่องไร้สาระ เด็กน้อยน้ำตาคลอที่เห็นพ่อตั้งหน้า ตั้งตาทำงานต่อไปไม่สนใจ เดินกลับห้องตัวเอง ปีนขึ้นเตียงเปิดทีวีทิ้งไว้เป็นเพื่อนทำให้คลายความกลัวและหลับได้ในที่สุด...
หญิงสาวรับรู้ถึงความรู้สึกของปพลได้ เพราะตอนเป็นเด็กเธอเองก็เหงาและเดียวดายไม่ต่างจากเขา
ooooooo










