ตอนที่ 12
“เอ่อ...เปล่า”
“ไม่ต้องโกหกหรอกน่า หน้าคุณมันฟ้อง งั้นก็ลงไปด้วยกันสิเดี๋ยวฉันไปตามพี่ปานให้”
“อย่าเลยเดี๋ยวไอ้พลมาเจอจะมีเรื่องอีก”
“ไม่เป็นไรหรอกน่ามีฉันอยู่ด้วย”
คำรับรองอย่างแข็งขันของปัทมาทำให้อานนท์ยอมลงจากรถ ครู่ต่อมาปัทมาเดินนำอานนท์เข้ามาในบ้านพลางตะโกนเรียกปานตะวันไปด้วย สวยเข้ามาเอ็ดเธอว่ามาส่งเสียงดังอะไรแถวนี้ เธอจะมาหาพี่ปานตอนนี้อยู่ไหน สวยอึกอักก่อนบอกว่าไม่ได้เฝ้าไว้จะรู้ได้อย่างไร
อานนท์ดุสวยให้พูดจาดีๆหน่อย แล้วถามว่าปานตะวันอยู่ไหน สวยท่าทางเหมือนปิดบังอะไรอยู่ ปัทมามองไม่ไว้ใจ
“พี่ฉันอยู่ไหน พี่ปาน...พี่ปาน” ปัทมาตะโกนเสียงลั่น
“คุณปานไม่อยู่ออกไปข้างนอก”
ทั้งสีหน้าและน้ำเสียงของสวยมีพิรุธสุดๆ ปัทมาไม่เชื่อขยับจะขึ้นไปดู สวยขวางทางไว้ ปัทมายิ่งมั่นใจว่ามีบางอย่างไม่ชอบมาพากลผลักเธอพ้นทางแล้ววิ่งขึ้นบันไดไปถึงชั้นสองตะโกนเรียกพี่สาวด้วยความเป็นห่วง
ปานตะวันนั่งหลับอยู่บนโซฟาในห้องนอนได้ยิน เสียงปัทมารีบลุกขึ้นแต่บ้านหมุนเป็นลมล้มฟุบ
เสียงโครมครามดังไปถึงหูปัทมากับอานนท์ต่างวิ่งไปที่ห้องนอนปพลเห็นประตูห้องคล้องกุญแจอยู่ ปัทมาหันไปเล่นงานสวยนี่ขังพี่ของเธอไว้ในห้องหรือ
อานนท์ไม่พอใจมากสั่งให้สวยเปิดประตูเดี๋ยวนี้ สวยกลัวเขาจะเล่นงานรีบเปิดประตูให้ อานนท์กับปัทมาเห็นปานตะวันนอนกองอยู่กับพื้นรีบเข้าไปประคองพลางร้องเรียกให้รู้สึกตัว แต่เธอนอนนิ่ง
ไม่ไหวติง เขาเห็นท่าไม่ดีรีบนำตัวส่งโรงพยาบาล
ooooooo
หมอตรวจอาการปานตะวันอย่างละเอียดพบว่ากำลังตั้งครรภ์ ทั้งอานนท์และปัทมาต่างตกใจพากันร้องเอะอะ ปานตะวันที่เพิ่งได้สติรู้ว่าตัวเองท้องถึงกับหน้าเครียด
“ยินดีด้วยนะครับ ช่วงนี้ก็ดูแลให้พักผ่อนเยอะๆ ทานยาบำรุงอย่าให้เครียด”
หมอรายงานเสร็จขอตัวไปตรวจคนไข้ต่อ ปัทมากับอานนท์หันมาเห็นปานตะวันนอนมองตาแป๋วจับท้องตัวเองรู้ทันทีว่าเธอได้ยินหมดแล้ว
“คุณนนท์ ปัท พี่ขอให้เก็บเรื่องนี้เป็นความลับอย่าเพิ่งบอกใครโดยเฉพาะคุณปพล”
“ทำไมล่ะครับ ผมว่าไอ้พลมันคงดีใจแล้วก็น่าจะดีกับคุณมากขึ้น”
“ไม่แน่หรอกค่ะ เขาอาจจะเสียใจก็ได้ เด็กคนนี้ไม่ได้เกิดมาอยู่ในสถานะที่เขารักปาน แต่เกิดมาเพราะความโกรธแล้วอยากจะแก้แค้นมากกว่า”
อานนท์พยายามพูดให้เปลี่ยนใจแต่ปานตะวันยืนกรานไม่ให้บอกปพล เขาไม่อยากให้เธอเครียดก็เลยรับปาก ปัทมาแนะให้พี่สาวนอนเล่นที่นี่ให้สบายใจสักวันสองวันค่อยกลับ ปล่อยให้ปพลตามหาพี่ให้บ้าไปเลย
“เขาจะมาตามหาพี่ทำไม” ปานตะวันพูดด้วย ความน้อยใจ...










