ตอนที่ 4
ลินจงพยายามคลานไปปลุกสมพรให้ตามปัทม์ให้ด้วย คราบเลือดเป็นทาง หนูตุ่นมารอปัทม์ที่หน้าบ้านอย่างกระวนกระวาย พอเห็นปัทม์ปั่นจักรยานเข้ามาก็พุ่งไปหาบอกว่าป้าจงถูกแทง
สมพรพาลินจงส่งโรงพยาบาลแล้ว ปัทม์ปั่นจักรยานพาหนูตุ่นไปโรงพยาบาลทันที
ที่โรงพยาบาล หมอกำลังช่วยปั๊มหัวใจลินจง ปัทม์ไปถึงวิ่งไปถามสมพรว่าแม่เป็นยังไงบ้าง
“พี่จงเสียเลือดมาก เขารอปัทม์อยู่ เข้าไปหาแม่ไป”
ปัทม์พุ่งไปที่ห้องฉุกเฉินเจอหมอเปิดประตูออกมามีพยาบาลเข็นเตียงมีผ้าขาวคลุมตามออกมา ปัทม์ถลาไปเปิดผ้าคลุมออก ถึงกับเข่าอ่อนทรุดกอดร่างแม่ไว้แน่น หนูตุ่นผวากอดปัทม์ไว้อีกคน
ปัทม์ในวัยชราเล่าถึงเหตุการณ์ตอนนั้นด้วยเสียงเครือว่า...
“สัญญาณชีพแม่ดับไป พร้อมๆกับชีวิตของผมกำลังจะดับสูญไปด้วย...แม่ผมเสียชีวิตก่อนที่ผมมาถึง... ผมสติหลุดจนเกือบไม่ได้มาอยู่ตรงนี้ การสูญเสียแม่ไปครั้งนี้ทำให้ชีวิตผมพัง...”
“คุณลืมพี่ปัทม์คนเดิมที่ผ่านมาไปเลย หลังจากนี้เขาเหมือนคนที่พี่ไม่เคยรู้จักมาก่อน” ตรีชวาเอ่ยแทรก
นักข่าวมองปัทม์ที่สีหน้าเคร่งขรึมอย่างพยายามนึกถึงเรื่องราวในอดีต...
ปัทม์ในนาทีนั้นเคว้งคว้างว้าวุ่น เขาอ้อนวอนแม่อย่าทิ้งตนไป ร่ำร้องให้หมอช่วยแม่เพราะแม่ยังไม่ตายกระทั่งไปยื้อยุดฉุดหมอให้มาช่วยแม่จนวุ่นวาย หนูตุ่นแหวกคนเข้าไปถึงปัทม์ก็ตบหน้าเขาสุดแรง
“พี่ปัทม์! ยอมรับความจริงได้แล้วว่าแม่พี่ตายไปแล้ว หยุดสร้างความวุ่นวายให้คนอื่นได้แล้ว”
ปัทม์ในวันนี้เล่าถึงแรงตบของหนูตุ่นในวันนั้นว่า
“หนูตุ่นตบหน้าผมแรงมาก ผมนิ่งมองหน้าหนูตุ่น แต่ไม่ได้ยินว่าพูดอะไร ทุกอย่างรอบตัวดูช้าไปหมดจนกระทั่งเจ้าหน้าที่เข้ามาล็อกตัวผมแล้วกดลงกับพื้น”
หนูตุ่นร้องไห้เมื่อปัทม์ถูกเจ้าหน้าที่จับกดลงกับพื้นและเขาก็ยังดิ้นสุดแรงและร้องไห้แทบขาดใจ...
ที่ศาลาวัด...ปัทม์นั่งพนมมือฟังพระสวดศพแม่ด้วยสีหน้าไร้ความรู้สึก มองรูปแม่ที่ตั้งอยู่หน้าโลงศพประดับด้วยดอกไม้เรียบง่ายไม่วางตา หนูตุ่นนั่งข้างๆปัทม์คอยชำเลืองด้วยความเป็นห่วง
พระสวดเสร็จ แขกที่มาไม่มากนักกลับกันแล้ว สมพรถามว่าปัทม์จะกลับหรือยัง ปัทม์ให้น้าพรกลับไปก่อน หนูตุ่นชวนพี่ปัทม์กลับกันเถอะ ปัทม์ถามสายตาเหม่อลอยว่า
“แล้วแม่พี่จะอยู่ที่นี่กับใครล่ะถ้าพี่กลับบ้าน”
ทุกคนอึ้ง ปัทม์บอกว่า “ผมจะนอนเป็นเพื่อนแม่ แม่อยู่ตรงนี้ ผมก็จะอยู่ที่นี่” แล้วปัทม์ก็ไปหยิบเสื่อมาปูใกล้ๆ โลงศพ นอนเป็นเพื่อนแม่...
ooooooo










