ตอนที่ 4
ปัทม์เดินเข้าบ้าน ได้ยินเสียงแตรเรียก ปัทม์ออกไปเห็นเฮียเล้งกวักมือบอกให้ขึ้นรถมาเป็นเพื่อนหน่อยตนอยากเมา ปัทม์อึกอัก กริชเร่งให้ขึ้นมาเถอะพรุ่งนี้วันเสาร์ไม่มีเรียนที่ไหน ปัทม์จึงต้องขึ้นรถไป
เมื่อปัทม์ขึ้นไปนั่งคู่กับเฮียเล้ง มีกริชนั่งเบาะหน้าคู่กับลูกน้องที่เป็นคนขับ เฮียเล้งถามปัทม์ว่าเคยกินเหล้ารึเปล่า ปัทม์บอกว่าไม่เคย
“ดีแล้ว เหล้ามันเป็นอะไรที่เฮียอยากเข้าไปมีส่วนร่วมอย่างมาก วันไหนๆคนมันก็กินเหล้า เศรษฐกิจดี เศรษฐกิจแย่คนมันก็ยังกินกัน ขายเหล้ารวยแน่ๆ”
เฮียเล้งพูดไม่ทันขาดคำ เสียงปืนก็กัมปนาทขึ้น เศษกระจกแตกกระจายเข้ามาในรถ เลือดกระเด็นเต็มหน้าปัทม์ ปัทม์ก้มต่ำหลบ เฮียเล้งก็มุดลงข้างล่างหลบกระสุน
กริชโดนลูกหลง ลูกน้องพยายามประคองไม่ให้รถเสียหลัก
มือปืนยิงพลาดเป้าจึงวกมอเตอร์ไซค์กลับมาจ่อยิงรัวอีกครั้ง รถชนต้นไม้ตกข้างทาง กริชเปิดประตูรถคลานออกไปสิ้นใจข้างรถ
มือปืนไม่หนำใจ เดินมาจ่อยิงเฮียเล้งที่ค่อยๆโผล่หัวขึ้นมา มือปืนจ่อยิงเฮียเล้งอย่างเลือดเย็น แล้วเดินกลับไปขึ้นมอเตอร์ไซค์ขี่ออกไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ปัทม์กลับบ้านในสภาพคราบเลือดเต็มหน้า น้ำตานอง แววตาตระหนก พอลินจงมาเปิดประตู ปัทม์ก็โผกอด
“แม่! เฮียเล้งตายแล้วครับแม่”
ลินจงตกตะลึง กอดปัทม์ไว้แน่น
กลางวันวันนี้ ปัทม์กับลินจงถูกสอบเครียดในห้องสอบสวนที่โรงพัก สมพรกับเดือนกนกนั่งอยู่ข้างนอกคอยชะเง้อมองเข้าไปเป็นระยะ
พอลินจงกับปัทม์เดินออกมา สมพรถามว่าตำรวจว่ายังไงบ้าง ลินจงบอกว่าปล่อยกลับบ้านและกันไว้เป็นพยาน สมพรกลัวว่าพวกที่ฆ่าเฮียเล้งจะย้อนกลับมา
เล่นงานปัทม์ ลินจงบอกว่าตำรวจรู้แล้วว่าคนร้ายเป็นกลุ่มไหน และรับปากว่าจะตามมาเฝ้าดูแลให้ 24 ชั่วโมง
“กลุ่มไหนเหรอ”
“ฉันก็ไม่รู้ แต่แกรู้ไหม นอกจากเฮียเล้งแล้วสารวัตรภักดีก็โดนฆ่าไปด้วยอีกคน”
ลินจงถามสมพรว่าคิดยังไง พอจะเดาได้ไหมว่าใคร ที่จะทำเรื่องแบบนี้ได้ สมพรบอกว่าตนไม่รู้ เพราะทั้งเฮียเล้งทั้งสารวัตรก็ทำเรื่องไปทุกที่
“จริงครับ เป็นไปได้ทุกที่ ทุกคนแม้จะจ่ายเงินให้เฮียเล้งแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะเต็มใจจ่าย” สมพรถามว่าแล้วปัทม์บอกอะไรกับตำรวจ “ผมบอกในสิ่งที่ผมเห็น บอกในงานที่ผมทำกับตำรวจครับ”
ลินจงถามว่าป้าอบไม่ได้เกี่ยวข้องด้วยใช่ไหม สมพรบอกว่าไม่ ตนกับป้าอบอยากจะเอาธูปเทียนใส่พานไปถวายคนจ้างวานฆ่าสองคนนี้ ขอบคุณที่ทำให้ซ่องกลับมาลืมตาอ้าปากได้อีกครั้ง
“รวมทั้งปัทม์ก็หมดเวรหมดกรรมกับเฮียเล้งไปเสียทีนะลูก”
“ผมไม่รู้ว่าผมจะดีใจหรือเสียใจดีครับแม่” ปัทม์ตอบเครียด
ปัทม์ในวัยชราวันนี้ เข้าไปล้างมือที่ห้องน้ำ พูดกับตัวเองในกระจกว่า










