ตอนที่ 2
ผาณิตาหรือน้ำตาลจัดการเคลียร์ปัญหาให้ประกิตหรือเสี่ยหนึ่งจบก็แยกไปขึ้นรถ จังหวะเดียวกับที่ผกาแม่จอมเจ้ากี้เจ้าการโทร.หา บ่นเรื่องพ่อของเธอที่จนป่านนี้ยังไปไม่ถึงบริษัท
“ลูกเห็นพ่อไหม แม่มาที่บริษัทไม่เห็นเจอหน้าเลย เห็นแต่อาๆของลูกประจบประแจงคุณปู่ เมื่อไหร่นะพ่อของลูกจะคิดอะไรได้เองโดยที่แม่ไม่ต้องจ้ำจี้จ้ำไช ถ้าเราชวดมรดกก็เพราะพ่อของลูกนั่นแหละ ลูกต้องพูดกับพ่อเขาบ้าง”
เสียงบ่นของแม่ไม่เข้าหูอีกต่อไป ผาณิตาวางมือถือบนตัก น้ำตาไหลพรากด้วยความเสียใจที่เจอเรื่องแบบนี้ หญิงสาวไม่มีอารมณ์ทำงานหรือเจอหน้าใครจึงเปลี่ยนเส้นทางจากบริษัทไปโรงภาพยนตร์ทันที
เหมันต์ไปทำงานที่โรงภาพยนตร์เดียวกันโดยบังเอิญเพราะเอมสาวห้าวข้างบ้านชวนทำงานพิเศษ และนั่นทำให้เขาได้เจอผาณิตาอีกครั้งแต่ในสภาพที่ดูไม่ได้!
ผาณิตาไม่ได้สนใจว่าใครจะมอง ตีตั๋วชมภาพยนตร์ตั้งแต่บ่ายจนรอบสุดท้ายพร้อมข้าวโพดคั่วถังใหญ่ การดูหนังเคยเป็นกิจกรรมสุดโปรดของเธอเพราะประกิตพ่อแท้ๆมักพาเธอมาตั้งแต่เด็กเพื่อเลี่ยงผกาแม่จอมเข้มงวดที่กดดันเธอเสมอให้ได้ที่หนึ่งเหนือลูกพี่ลูกน้องคนอื่น
ประกิตเคยเป็นฮีโร่ของเธอจนกระทั่งระยะหลังที่เขาไม่สนใจการงานและมีเมียน้อย ผาณิตาจำไม่ได้ว่าเคยตามแก้ปัญหาฉาวๆแบบนี้ให้พ่อกี่ครั้งและครั้งล่าสุดก็ทำให้กำแพงอารมณ์ของเธอพังทลายจนต้องมานั่งดูหนังกินข้าวโพดคั่วมาราธอนตามลำพังอย่างตอนนี้
เหมันต์อยู่โยงช่วยพนักงานเก็บกวาดโรงภาพยนตร์จึงได้เห็นสภาพดูไม่จืดของผาณิตา แถมเธอยังซุ่มซ่ามเดินเหม่อจนส้นรองเท้าติดท่อระบายน้ำ เขาต้องช่วยดึงออกและพยุงไปขึ้นรถ แต่แทนที่เธอจะขอบใจกลับแหวใส่
“ฉันไม่ได้ขอให้ช่วย ทีหน้าทีหลังอย่ามายุ่ง!”
“ผมจะพาคุณกลับบ้าน”
“ฉันไม่ใช่เด็กสองขวบนะถึงต้องมีคนจูงกลับบ้าน”
ผาณิตาพูดหยิ่งๆแล้วผละจากอ้อมกอดแกร่งแต่ไม่กี่ก้าวก็ล้มหมดสติ ร้อนถึงเหมันต์ต้องพาไปปฐมพยาบาล...
ooooooo
เรื่องคลิปหวิวของประกิตถึงหูเหมทองเร็วกว่าที่คิด เย็นวันเดียวกันนั้น...เมื่อประกิตหรือเสี่ยหนึ่งปรากฏตัวที่บ้านเพื่อขัดรองเท้าให้พ่อบุญธรรมตามคำสั่งกมลผู้ช่วยหนุ่มของเหมทองก็เปิดคลิปโชว์
ประกิตลนลานแก้ตัว “คือๆ...ผมเลิกกับมันแล้วนะครับ ไม่ได้ยุ่งกับมันแล้ว”
เหมทองปรายตาไปทางกมลซึ่งพูดเสียงเรียบ
“ผมรายงานไปแล้วครับว่าสามีของผู้หญิงมาลากตัวไปจากคอนโดวันนี้เอง”










