ตอนที่ 1
ครูจันทราพาพัสกรออกมาที่ห้องรับแขก พบกับพ่อ แม่ และลูกสาวครอบครัวหนึ่งกำลังนั่งคุยอยู่กับป้านิด ครูจันทราแนะนำว่านี่คือคุณวิทยากับคุณอุษา เรารู้จักกันมานานเพราะเคยติดตามดูงานแสดงบัลเล่ต์ของคุณภากรและเจอกันบ่อยๆ สมัยที่คุณภากรแสดงเป็นพระเอกบัลเล่ต์ที่โรงละครแห่งชาติ แล้วหันมาบอกพัสกรว่า “ตอนนั้น เธอยังไม่เกิดมั้ง”
คุณอุษาเล่าถึงสมัยนั้นที่พวกตนเอาช่อดอกไม้ไปให้คุณภากรที่หลังเวทีกันอย่างมีชีวิตชีวา แม้ตอนหลังไม่มีการจัดบัลเล่ต์อย่างนั้นอีก แต่พวกตนก็ติดตามงานของคุณภากรตลอด คุณวิทยาเสริมว่าครูภากรเป็นคนไทยที่เต้นเก่ง มีเสน่ห์ ตนเสียดายทั้งฝีมือ ทั้งความดี
คุณวิทยายังเล่าว่า...
“เขาสอนเด็กๆทั้งที่ต่างจังหวัด ทั้งพวกเด็กด้อยโอกาส ผมทราบว่าลูกชายครูภากรก็เรียนเต้น แล้วก็ตั้งใจจะเป็นครูเหมือนกับครูภากร ผมก็พยายามสืบหาอยู่เป็นปีจนคุณเริ่มมาแสดงออกทางทีวี เราจึงตามมาถูก...พอเราทราบว่าคนที่ดูแลทายาทครูภากรอยู่ก็คือครูจันทรานี่เอง เราก็เลยรีบมาขอพบนี่แหละครับ”
ทนายที่มากับคุณวิทยาและคุณอุษา สรุปว่า “คุณวิทยาและคุณอุษา วิริยกาญจน์ ต้องการจะขอเป็นคนดูแลทายาทของครูภากร เราหวังว่าคุณพัสกรจะไม่ปฏิเสธนะครับ”
พัสกรถามว่าจะดูแลตนอย่างไร พิณลูกสาวของทั้งสองซึ่งนิยมชมชื่นพัสกรบอกว่า พ่อแม่มีตนคนเดียวตนอยากมีพี่ชาย และคุณพ่อคุณแม่ก็อยากมีลูกชายด้วย พัสกรมองครูจันทราเชิงขอความเห็น ครูจันทรายิ้มให้เป็นการสนับสนุนในที...
ooooooo
2 ปีต่อมา...พัสกรเรียนอยู่ปี 4 แล้วและกลายเป็นนักเต้นที่มีแฟนคลับโดยเฉพาะสาวๆมากมาย ไม่ว่าเขาจะไปแสดงที่ไหน แฟนคลับก็ตามไปกรี๊ดกร๊าดกันอย่างคลั่งไคล้จนนักร้องคนหนึ่งบ่นว่า
“เดี๋ยวนี้เด็กมันกรี๊ดนักเต้นมากกว่านักร้องแล้วเหรอวะ”
“นักเต้นธรรมดาที่ไหนล่ะคะ นี่น่ะ พัสกร ออนเดอะฟลอร์ เลยนะ เป็นเกียรติจริงๆที่เขายอมมาร่วมงานกับเรา” ผู้จัดการสาวบอกอย่างภูมิใจ
แหวนพลอยอยู่ที่อุบลฯ แต่ก็ติดตามผลงานของพัสกรอย่างใกล้ชิด แม้จะไม่สามารถติดตามไปกรี๊ดได้ ก็สนับสนุนด้วยการกว้านซื้อนิตยสารเกี่ยวกับดาราที่เอารูปพัสกรขึ้นปก และสัมภาษณ์พัสกรตามแผงหนังสือซื้อจนเต็มเป้ที่สะพาย พูดกับรูปพัสกรที่ปกหนังสือว่า
“กลับบ้านเรานะคะคุณพัสกร แหวนพลอยเอา เงินเดือนซื้อหนังสือหน้าปกคุณพัสกรทั้งตลาด ให้เหลือแค่ร้านละเล่ม อย่างน้อยเขาจะได้เห็นว่า ถ้าใครเอาคุณพัสกรมาขึ้นปก หนังสือจะขายดิบขายดี เผื่อเขาจะเอาคุณพัสกรมาขึ้นปกอีกบ่อยๆไงคะ”
แหวนพลอยเอาหนังสือใส่เป้แล้วปั่นจักรยานไปอย่างมีความสุข...
ooooooo










