ตอนที่ 14
กวินทักว่าดูลดาดีขึ้น ไม่เหมือนคนป่วยเลย เฟื่องลดาบอกว่าที่จริงตนไม่ได้ป่วยอะไรเลย เดี๋ยวก็กลับบ้านได้แล้ว กวินเลยฝากกานดาไว้สักครู่ตนจะไปคุยธุระกับเพื่อนแถวนี้ เดี๋ยวจะซื้อขนมมาฝาก พอกวินออกไป กานดาถามทันทีว่า
“แล้วพระเอกของแกไปไหนล่ะ”
“ไม่รู้” เฟื่องลดาส่ายหน้าหางเสียงน้อยใจ กานดามองเพื่อนอย่างแปลกใจ
ทัฬห์ไปถึงโรงแรมพฤทธานนท์ที่ชะอำแล้ว ผู้จัดการรีบมาต้อนรับถามว่ามาเงียบๆมีอะไรหรือเปล่า ทัฬห์ตอบสบายๆว่า
“เปล่า ผมผ่านมาเลยแวะมาทานข้าวหน่อย เชฟอาหารไทยที่ส่งมาจากกรุงเทพฯเป็นยังไงบ้าง”
ผู้จัดการบอกว่าดี นอกจากทำอาหารไทยรสชาติดีแล้วการจัดแต่งก็เก่งมาก
“ถ้าอย่างนั้นช่วยให้เขาทำอาหารจานเดียวง่ายๆ ไปให้ผมที่ห้องทำงานด้วยนะ” ทัฬห์หาทางพบสร้อยสนเนียนๆ แล้วแยกไปห้องทำงาน ส่วนผู้จัดการเดินไปทางห้องอาหารไทย
ไม่นานนักสร้อยสนเดินนำพนักงานเข็นรถอาหารเข้าไปที่ห้องทำงานของทัฬห์ เธอไหว้ทัฬห์อย่างอ่อนน้อม ขณะพนักงานจัดวางอาหาร ทัฬห์ถามว่าทำงานที่นี่เป็นยังไงบ้าง
“ดีค่ะ ผู้ร่วมงานทุกคนน่ารักมาก อากาศก็ดี ฉันชอบมากค่ะ เอ๊ะ...แขนคุณทัฬห์?”
“อุบัติเหตุนิดหน่อยครับ”
พนักงานจัดอาหารเสร็จเข็นรถออกไป ทัฬห์มองอาหารตรงหน้าชมว่าน่าทานจัง สร้อยสนขอบคุณ ถามว่าเฟื่องลดาสบายดีไหม
“ครับ แต่ดูคุณเหมือนไม่ค่อยสบายนะ ผมว่าหน้าคุณซีดๆ”
“ฉันสบายดีค่ะ”
“แต่ผมว่าน่าจะไปหาหมอหน่อยนะครับ”
สร้อยสนบอกว่าตนไปมาแล้ว หมอบอกว่าแค่พักผ่อนน้อย หมอให้ยาบำรุงมาทานด้วย ทัฬห์มองหน้าย้ำว่า
“ต้องทานให้หมดนะครับ หลานผมจะได้แข็งแรง”
“คุณทัฬห์” สร้อยสนตกใจมาก แต่ทัฬห์พูดหน้านิ่งๆว่า
“ไหนคุณสัญญาว่าถ้ามีปัญหาอะไรจะคิดถึงผมเป็นคนแรก”
“ฉัน...ฉันไม่ได้บอกคุณเพราะฉันไม่ได้คิดว่าเรื่องนี้เป็นปัญหาสำหรับฉัน”
“คุณคงหาทางแก้ปัญหานี้แล้วใช่ไหม และถ้าผมคิดไม่ผิด คุณกำลังหาทางจะย้ายไปอยู่ที่อื่นเพื่อหนีทั้งผมและนายไทว์”
สร้อยสนว้าวุ่นใจมาก ทัฬห์มองหน้าเธอ พูดอย่างอ่อนโยน บอกให้นั่งลงก่อนเพราะเราคงต้องคุยกันนาน สร้อยสนค่อยๆนั่งลงอย่างอ่อนแรง
ooooooo
ขณะที่ทัฬห์กำลังคุยอยู่กับสร้อยสนที่ชะอำนั้น กานดาก็ถามเฟื่องลดาว่าเดี๋ยวทัฬห์จะเข้ามาหรือจะให้ตนโทร.ตาม
เฟื่องลดาถามงอนๆว่าโทร.ทำไม เขายังไม่สนใจ ตนเลย บอกว่าจะมาตั้งแต่สายจนป่านนี้จะเย็นอยู่แล้ว กานดาแซวว่ามีอาการนอยด์ด้วย ไหนบอกว่าไม่ชอบคุณทัฬห์ไง
“ก็ไม่ชอบน่ะสิ”
“แกนี่เมื่อไหร่จะรู้ใจตัวเองซักที” เฟื่องลดาพูดเสียงห้วนว่า รู้ไปก็เท่านั้น “มันจะเท่านั้นได้ยังไง ถ้าแกรู้ว่าแกชอบคุณทัฬห์ แกจะได้เปิดใจรับเขาซะที สงสารคุณทัฬห์ว่ะ”
เฟื่องลดาถามว่าสงสารทำไม โทษว่ากานดามโนไปเอง ย้ำว่า “เขาไม่ได้มีใจอะไรกับฉันอย่างที่แกคิดหรอก”
“ไม่จริง ฉันกล้านั่งยันนอนยันยืนยันได้เลย แค่ฉันดูตาคุณทัฬห์ฉันก็รู้แล้วว่าเขาชอบแก เดี๋ยวสิ... ไม่ใช่แค่ชอบนะแต่รักเลยแหละ พี่วินก็พูดเหมือนฉัน”
“รักเหรอ ขนาดฉันนอนป่วยไม่สบายอยู่แบบนี้ ยังไม่มาดูเลย” เสียงออกงอนๆ กานดาถามว่าเมื่อคืนเขาก็อยู่กับแกไม่ใช่หรือ เฟื่องลดาส่ายหน้า กานดาถามว่าจริงเหรอ “จริง...เห็นหรือยังว่าที่แกคิดน่ะมันผิด ฉันเองก็เกือบหลงเข้าข้างตัวเอง ถ้าไม่ป่วยคราวนี้ก็คงไม่รู้ ที่เขาทำดีกับฉัน เขาคงแค่สงสารเท่านั้น”
“ไม่จริง เชื่อฉันสิเดี๋ยวคุณทัฬห์ก็มา ยังไงเขาต้องมารับแกกลับบ้าน”
พอดีมีเสียงเคาะประตู กานดามองหน้าเฟื่องลดา ทำนองว่านั่นไง...แล้วตะโกน “เชิญค่ะ”










