ตอนที่ 8
ติ๊ยาตกตะลึงด้วยคาดไม่ถึง จ้องหน้าหินตาโพลง ในใจว้าวุ่นครุ่นคิด “บ้าจริง นี่มันอะไรกัน ตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยซบอกผู้ชายแบบนี้มาก่อนนอกจากพ่อ นี่เขาคิดอะไรกับเรารึเปล่านะ ไม่ใช่! มันไม่จริงหรอก เราต้องไม่คิดอะไรบ้าบอแบบนี้สิ บ้าบอที่สุด...”
“อุ่นขึ้นไหม” เสียงหินดังขึ้นทำให้ติ๊ยาหลุดจากภวังค์ เขาถามย้ำอีกครั้ง เธอตอบปากสั่น
“อ่อ...เอ่อ...อะ...อะ...อุ่น...อุ่น...”
หินกระชับอ้อมกอดแน่นขึ้น ติ๊ยาคิดไปไกลว่าเขาจะจูบรีบตะปบปากตัวเองไว้แล้วลุกพรวดขึ้นร้องห้าม
อย่านะ...อย่านะ...หินมองงงๆ เธอรีบแก้ตัว
“เอ่อ...คือ...ไม่ต้องแล้ว ฉันไม่หนาวแล้ว ฉันไม่หนาวเลย” พูดจบวิ่งจู๊ดไปนั่งอีกมุม “แฮ่ นั่งตรงนี้ ไม่หนาว อุ่น...อุ่นมากเลย” เห็นเขายังจ้องมองก็ย้ำว่าจริงๆ เธอหลบสายตาแต่ปากยังพูด “คุณรู้ไหม น้องน้ำโทร.หาฉัน...น้องน้ำเองตอนโทร.มาก็ร้องไห้ไม่หยุด น่าสงสารมากเลย”
หินนั่งจ้องมองติ๊ยา เธอหันมาเห็นสายตาเขายังจับจ้องอยู่ก็รีบหันกลับ พูดว่าตนรับปากน้ำว่าถ้าติดต่อเขาได้จะรีบบอก แล้วตอนนี้ตนควรทำอย่างไร หินนิ่ง เธอถอนใจเฮือก
“แต่ก็เออเนอะ ต่อให้อยากจะรีบบอกน้องน้ำใจแทบขาดก็ไม่รู้จะบอกยังไง นี่อยู่ตรงไหนของโลก ฉันยังไม่รู้เลย เกาะบ้าอะไรคลื่นมือถือก็ติดๆดับๆ แล้วยังต้องมาติดอยู่ในกระท่อมอะไรก็ไม่รู้” ทันใดไฟฉายที่ใช้ส่องดับวูบลง หญิงสาวสะดุ้งโหยงพนมมือแต้ “ไม่เอาสิ ลูกขอโทษ...ลูกผิดไปแล้ว ลูกไม่ได้คิดจริงจัง ลูกแค่บ่น”
เสียงหมาหอนดังขึ้น ติ๊ยาแทบสติแตกลุกพรวดวิ่งไปเกาะแขนหิน ซุกตัวข้างเขาราวกับเด็กน้อย
หินมองเธอที่อยู่ชิดใกล้จนหมาหยุดหอน ติ๊ยาเงยหน้าขึ้นเจอสายตาเขาก็ชะงักสบตานิ่ง
“ทำไมคุณถึงต้องหนีทุกคนมาแบบนี้คะ...คุณหิน”
“ทำไมคุณถึงอยากรู้...คุณเป็นห่วงผม?” ติ๊ยาพูดไม่ออกหลบตา “แต่รตีไม่เป็นห่วงผม...เขาไม่รักผมแล้วจริงๆ” น้ำเสียงหินมีความน้อยใจ ติ๊ยาสงสาร
“นี่มันเกิดอะไรขึ้นกับคุณกันแน่คะคุณหิน”
หินนึกถึงตอนที่รตีฟื้นแล้วเพ้อเรียกหาคิมหันต์ และยังพูดว่าเธอรักคิมหันต์...น้ำตาเขาไหลออกมา ติ๊ยาตกใจรีบโอบกอดเขาด้วยความสงสารสุดใจ หินซบหน้าร้องไห้สะอึกสะอื้นเหมือนอยู่ในอ้อมกอดแม่ก็ไม่ปาน
ติ๊ยาได้รับรู้อีกด้านของผู้ชายที่เข้มแข็งทื่อมะลื่ออย่างหินก็อดกอดปลอบไม่ได้ หินเป็นฝ่ายรู้สึกตัวผละออกเมินหน้าหนี
“ผมขอโทษ ผมเป็นลูกผู้ชาย ผมไม่ควรแสดงความอ่อนแอ”










