ตอนที่ 4
“เฮาก็หวังว่าจะได้เห็นเมืองจายของเรากลับคืนมาอีกครั้ง”
“ไปกันได้แล้ว เดี๋ยวทุกคนจะคอยนาน” ยุพราชเดินนำออกไป อ่อนคำรีบคว้าตัวเขาไว้
“เฮายังไม่ได้ขอบใจเจ้าเลยที่ช่วยเฮาไว้ ไม่งั้นเฮาคงตายอยู่ที่หอคำตั้งแต่วันแรก”
“เฮาบอกแล้วว่าเฮาทำตามหน้าที่”
“ยังไงเฮาก็ต้องขอบใจ” อ่อนคำสวมกอดยุพราชดื้อๆ “เฮาไม่รู้ว่าอนาคตจะเกิดอะไรขึ้น แต่เฮาขออาราธนาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายช่วยให้เจ้าและพวกเราทุกคนสามารถข้ามไปฝั่งโน้นได้อย่างปลอดภัย”
“จะไม่มีอะไรเกิดขึ้น พวกเราทุกคนต้องไม่ตาย เพราะถ้าพวกเราตาย ใครจะกลับมากอบกู้เมืองของเรา พวกเราต้องรอด เข้าใจไหมอ่อนคำ”
“เฮาเข้าใจ พวกเราทุกคนต้องรอดไปด้วยกัน” อ่อนคำกอดยุพราชแน่น พยายามซึมซับความเข้มแข็งจากเขาไว้อย่างเต็มที่
แล้วอีกครู่ต่อมา ทั้งหมดก็เดินเท้าต่อไปอย่างระมัดระวัง ยุพราชนำหน้าพลางหันมาบอกพวกอกานซิงห์ว่า
“ระยะทางจากตรงนี้ไปยังจุดนัดพบกับฝ่ายไทยจะอันตรายมากเพราะเข้าใกล้ชายแดนมากขึ้นทุกที ทุกคนต้องระวังตัวให้มากๆนะครับ”
ทุกคนพยักหน้ารับ ท่าทางเคร่งเครียด ยุพราชก้าวมาถึงชายป่าเห็นทหารซาอูกลุ่มหนึ่งเดินลาดตระเวนอยู่ เขาชะงักแล้วรีบส่งสัญญาณให้ทุกคนหมอบลง
“มีอะไรลูก”
“ทหารซาอูกำลังลาดตระเวนอยู่ข้างหน้า เราคงต้องอ้อมไปครับ”
อกานซิงห์ส่งสัญญาณให้ทุกคนคลานอ้อมไปอีกทาง เจ้าแสงหน่อฟ้า มหาเทวี คำพูน และกาวินคลานตามกันไปเป็นลำดับ เมื่อทุกคนไปกันหมดแล้ว เหลือแต่อ่อนคำที่รั้งท้าย ยุพราชกระซิบบอกอ่อนคำให้ตามหลังตนมา
แต่ขณะที่อ่อนคำกำลังจะคลานตามมาก็มีเสียงทหารซาอูพูดขึ้น
“แกเดินไปก่อน ฉันขอฉี่แป๊บนึง”
ทหารซาอูเดินตรงมาที่พุ่มไม้ใกล้กับที่อ่อนคำซ่อนตัวอยู่ อ่อนคำพยายามหลบซุกซ่อนไม่ให้ทหารซาอูเห็นตัว ทุกคนที่คลานนำไปซ่อนอยู่อีกมุมมองอ่อนคำด้วยความเป็นห่วง อ่อนคำโบกมือไล่ให้ทุกคนไปก่อน แต่ทุกคนลังเลไม่อยากทิ้งเธอไว้คนเดียว
ทหารซาอูเดินใกล้เข้ามาทุกที ยุพราชหยิบปืนเตรียมพร้อมยิง แต่อกานซิงห์รีบมาจับแขนยุพราชไว้
“ไม่ได้ เสียงปืนจะทำให้ทหารที่เหลือกรูกันมาตรงนี้ แผนของเราที่จะนำตัวเจ้าหลวงกับมหาเทวีข้ามฝั่งไปจะทำได้ยากขึ้น”
“งั้นพ่อพาเจ้าหลวงกับมหาเทวีหนีไปก่อน ผมจะหาทางช่วยอ่อนคำ”
อกานซิงห์พยักหน้าแล้วคลานกลับไปหาเจ้าหลวงกับมหาเทวี ขณะที่ยุพราชหันมาจับตามองทหารซาอู ในมือเขาถือปืนพร้อม ถ้าจำเป็นก็ต้องยิง
ทหารซาอูเดินมาถึงพุ่มไม้แล้วยืนฉี่ อ่อนคำหลับตาปี๋พลางพึมพำ
“พ่อเฒ่าพ่อแก่เจ้าขา ช่วยลูกช้างด้วยเถอะเจ้าค่า”










