ตอนที่ 1
เมษารินวิ่งหนีมาหยุดยืนหอบที่มุมหนึ่ง แอบมองไปว่าชายแปลกหน้าตามมาไหม เมื่อไม่เห็นก็รีบหันเดินกลับห้อง แต่แล้วนึกขึ้นได้ว่าไม่มีกุญแจห้อง โชคดีเจอแม่บ้านจึงขอกุญแจสำรองมาได้
ทันทีที่เข้าห้องได้ เธอคว้ากระเป๋าเก็บเสื้อผ้าข้าวของอย่างเร็ว ใจอยากจะไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุด ไปให้ไกลจากเจ้าบ่าวนิรนาม แต่แล้วเห็นโทรศัพท์มือถือจึงคว้ามันมาดู รุ้งรดาโทร.เข้ามาตั้งแต่เมื่อวาน เมษารินกำลังอยากมีเพื่อนสักคนระบายเลยกดโทร.กลับไป
รุ้งรดาเป็นทั้งเพื่อนสนิทและเลขา รับสายอยู่ที่โต๊ะทำงานด้วยความแปลกใจ “อุ๊ย ทำไมตื่นแต่เช้าจัง เมื่อคืนเพิ่งส่งตัวเข้าหอไม่ใช่เหรอเม”
เมษารินฟังแล้วเหมือนถูกสะกิดโดนแผล เค้นเสียงไปว่า “ส่งตัวอะไรกัน”
“ทำไมพูดเสียงผิดหวังอย่างงั้นล่ะเม หรือว่า...ศรุตเมาแอ๋จนหลับเมื่อคืนเลยไม่ได้ส่งตัว”
“ศรุตไม่ได้เมา คนที่เมาคือฉันต่างหาก เพราะศรุตทิ้งฉันไว้ หนีการแต่งงานไป”
“หา! ศรุตเนี่ยนะหนีการแต่งงานไป” รุ้งรดานึกขึ้นได้ว่าเสียงดังไปเดี๋ยวคนอื่นได้ยิน รีบกระซิบกระซาบซักต่อ “เป็นไปได้ไง ก็ศรุตเป็นคนคุกเข่าขอเธอแต่งงานเองนะเม”
“แต่มันเป็นไปแล้ว ศรุตทิ้งฉันไว้ที่ชายหาด ให้ฉันแต่งชุดเจ้าสาวยืนรอเก้อแล้วเขาก็หายตัวไป”
รุ้งรดาอ้าปากค้าง สงสารเมษารินจนแทบพูดอะไรไม่ออก “โธ่เม...แล้วนี่เธอโอเคไหม ให้ฉันไปหามั้ย”
“แกไม่ต้องมาหรอก ฉันกำลังจะไป กลับถึงกรุงเทพฯแล้วฉันจะโทร.หา แค่นี้นะ”
เมษารินวางสายพยายามกล้ำกลืนน้ำตา เปลี่ยนเสื้อผ้าและหิ้วกระเป๋าออกจากห้อง คลาดกับเขตแดนนิดเดียวที่มาถามแม่บ้าน และได้คำตอบว่าแขกที่พักห้องนี้เพิ่งเช็กเอาต์ออกไปเมื่อสักครู่นี้เอง
เขตแดนเดินออกมาเห็นเมษารินกำลังออกจากประตูของโรงแรมอยู่มุมไกลข้างหน้า เขารีบวิ่งไปแต่ไม่ทัน เพราะเธอขึ้นรถขับไปอย่างเร็ว ได้แต่ยืนมองรถที่แล่นห่างออกไปไกล...ในใจคิดว่าคงจบเพียงเท่านี้
ooooooo
ที่กรุงเทพฯ วิไลเปิดร้านเลิฟเบเกอรีขายทั้งขนมและเครื่องดื่ม ขณะเธอกำลังเก็บโต๊ะที่ลูกค้าเพิ่งกินเสร็จ จู่ๆปิ่นมณีจูงมือศรุตเข้ามา วิไลที่รู้สึกเสียใจและผิดหวังกับการกระทำของลูกสาวจะเดินหนี แต่ปิ่นมณีรีบเข้ามาคว้าแขนแม่ไว้
“ยกโทษให้เราเถอะแม่ ปิ่นพารุตมากราบขอขมาแม่แล้ว”
“แม่ยกโทษให้ แล้วคิดว่าแม่ของคุณรุตเขาจะยกโทษให้เหรอปิ่น เขาไม่อยากได้เราเป็นลูกสะใภ้ ปิ่นเจอฤทธิ์เขามากี่ครั้งแล้วยังไม่เข็ดอีกเหรอ ยังจะดันทุรังกลับไปหาลูกชายเขาอีก”
วิไลนั่งเมินหน้าทำใจลำบาก ศรุตกับปิ่นมณีนั่งคุกเข่าลงตรงหน้า ศรุตพนมมือไหว้เล่าความจริง










