ตอนที่ 14
“ไม่...ถ้าฉันไม่อยู่แล้วนายมีอาการขึ้นมาใครจะช่วยนาย”
ธาดาที่มาถึงตัวเธอทันได้ยินประโยคสุดท้าย ช่วยศิวกรพูดอีกแรง
“ดาวยังไม่รู้เรื่องนายเมฆกับฉัตรใช่ไหม”
“ทำไม...เกิดอะไรขึ้นกับสองคนนั้น”
ศิวกรถอนใจยาวก่อนตอบแทนสารวัตรหนุ่ม “พวกมันทำร้ายเมฆกับฉัตร บังคับให้สองคนนั้นบอกที่อยู่ผม เมฆกับฉัตรปลอดภัยใช่ไหมสารวัตร”
ธาดาพยักหน้า “ผมให้คนไปดูที่เกิดเหตุแล้ว น่าจะพอสืบรู้ว่าเป็นฝีมือใคร”
ศิวกรสีหน้าเคร่งเครียด ตัดสินใจพูดกับดาว-ประดับตรงๆ
“คุณเชื่อหรือยังว่าพวกมันต้องการชีวิตคุณจริงๆ ตอนนี้คนที่สามารถดูแลคุณได้ก็คือสารวัตร”
ดาวประดับหน้าเสียเพราะต้องแยกจากเขา ศิวกรรู้ดีแต่ต้องตัดใจฝากเธอไว้กับธาดา
“ผมฝากด้วยนะสารวัตร”
ธาดารับปากหนักแน่น ดาวประดับยอมอย่างไม่มีทางเลือก กระนั้นก็อดไม่ได้ตะโกนไล่หลังศิวกร
“อย่าเป็นอะไรนะ”
ท่าทางอาลัยอาวรณ์ของดาวประดับที่มีต่อ
ศิวกรทำให้ธาดาช้ำใจมาก แต่ต้องข่มใจทำตามที่รับปากเพราะอย่างไรเสียเธอก็เป็นคนเดียวที่เขารักและห่วงใยมากที่สุด
ooooooo
ธาดาพาดาวประดับไปพักที่บ้าน ส่วนศิวกร ก็สวมรอยเป็นศิวัชอีกครั้งเข้าออฟฟิศเพื่อสืบเรื่องทั้งหมด เช่นเดียวกับเมฆที่อยากประจันหน้านพดลเพื่อถามเรื่องเมื่อคืน แต่ฉัตรชิตาเป็นห่วงเมฆที่ยังบอบช้ำทั้งตัวจึงพยายามรั้งเขาไว้
“ปล่อยฉันได้ไหมฉัตร”
“ไม่ปล่อย! นายก็เห็นแล้วไม่ใช่เหรอว่าเมื่อวานพวกมันทำอะไรได้ ตอนนี้นายอาจจะโวยวายตะโกนด่าพวกนั้นได้ก็จริง แล้วหลังจากนั้นล่ะ พวกมันก็จะส่งคนมาเก็บพวกเราไง”
“แล้วจะปล่อยให้มันลอยนวลโดยที่เราไม่ทำอะไรเลยหรือไง ถ้ามันทำฉันคนเดียวฉันยังทนได้ แต่ฉันทนไม่ได้ที่เห็นพวกมันทำร้ายเธอ”
ระหว่างที่เมฆกับฉัตรชิตาเถียงกัน นพดลควงเมทินีเข้ามาอีกทาง
“พวกนั้นนี่...โดนไปขนาดนั้นยังมากันไหวอีกเหรอ คุณคิดว่าพวกนั้นรู้ไหมว่าเมื่อวานเป็นฝีมือเรา”
“ถ้าจะรู้ก็คงรู้เพราะปากเปราะๆของเธอเนี่ยแหละ”
นพดลเอ็ดเมทินีที่ปากพล่อย ก่อนแกล้งทำมึนเดินไปทักเมฆกับฉัตรชิตา
“ไปทำอะไรมา เมื่อวานยังเห็นดีๆอยู่นี่”
เมฆหัวเสียมากโต้ทันที “ไม่ต้องมาทำเป็นไม่รู้เรื่อง ถึงแกจะปิดตาฉันแต่ฉันก็รู้ว่าเป็นฝีมือแก ทำไมฉันถึงรู้...รู้ไหม เพราะฉันได้กลิ่นไง กลิ่นชั่วๆของแกมันลอยออกมาจนไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเป็นฝีมือแก”
เมทินีหัวร้อนแทนนพดล แหวลั่น “พูดจาอะไรให้เกียรติกันบ้างนะ ฉันกับคุณนพดลคือเจ้าของคนใหม่ของเขมวัฒน์ อยากโดนไล่ออกหรือไง”
“เหรอ...ผมก็ไม่รู้นะว่าผมจะโดนไล่ออกก่อนหรือพวกคุณจะเข้าไปอยู่ในคุกก่อน”
นพดลกับเมทินีชะงัก เมฆได้ใจรีบขู่
“ตอนนี้ตำรวจไปดูหลักฐานที่พวกแกจับฉันกับฉัตรเมื่อคืนแล้ว แกเตรียมทนายไว้สู้คดีได้เลย”
ไม่ทันขาดคำมือถือของเมฆก็ดัง ธาดานั่นเองที่โทร.บอกเรื่องตรวจสอบตึกร้างที่เกิดเหตุ
เมฆเปิดลำโพง “ครับสารวัตร ช่วยพูดดังๆให้คนแถวนี้มันเตรียมตัวเตรียมใจโดนจับหน่อยสิครับ”
“เมฆ...นายแน่ใจนะว่านายบอกตึกถูก”
“แน่ใจสิสารวัตร ภาพติดตาขนาดนั้นไม่ผิดแน่นอน...ทำไมเหรอครับ”
“ลูกน้องผมที่เข้าไปดูบอกว่าไม่พบร่องรอยอะไรอย่างที่นายบอกเลย”
เมฆกับฉัตรชิตามองหน้ากันเครียดๆ นพดลแสยะยิ้ม รีบข่มขวัญ
“จริงสิ...นายบอกว่าไอ้คนที่มันจับนายสองคนไปมันปิดหน้าปิดตานี่ ฉันว่านายคงจะสับสนแล้วล่ะ”
ฉัตรชิตาเห็นท่าไม่ดีคว้ามือถือมาคุยแทน “จริงๆนะธาดา พวกเราจำได้ว่ามันเป็นตึกนั่นแหละ พวกเราไม่ได้โกหกนะ”










