ตอนที่ 14
นพดลเหยียดยิ้มร้าย คิดใช้ประโยชน์จากความสัมพันธ์นี้ แต่เมทินียังตามเกมเขาไม่ทัน
“มีอะไรเหรอ”
“ฉันมีวิธีที่จะให้ไอ้หมอนั่นมันบอกแล้วว่าเพื่อนมันกับนังดาวประดับนั่นอยู่ที่ไหน!”
ขณะที่พวกนพดลหาทางเค้นความลับจากเมฆ ศิวกรกับดาวประดับใช้เวลาร่วมกับสีดาอย่างมีความสุข ดาวประดับสบายใจขึ้นมาก ช่วยเหลืองานในบ้านทุกอย่างจนสีดาเกรงใจ
ศิวกรไม่อยากให้ดาวประดับว่างจนฟุ้งซ่านเรื่องพ่อบุญธรรม ช่วยพูดกับแม่
“ไม่เป็นไรหรอกแม่ ถึงคุณดาวจะเป็นทายาทพันล้านของเขมวัฒน์ แต่เธอก็ไม่ได้อ่อนแอเป็นคุณหนูหรอก”
ดาวประดับรีบสำทับ “ค่ะ...ตอนที่ดาวอยู่อเมริกา ดาวก็ทำเองทุกอย่าง...ไม่ลำบากอะไรหรอกค่ะ”
ศิวกรอยากทำให้เธอยิ้ม แกล้งกวนประสาท “ใช่ครับ นอกจากคุณดาวจะไม่กลัวความลำบาก เธอยังมีจิตใจโอบอ้อมอารี ชอบช่วยเหลือคนอื่น อย่างเช่นการล้างจานนี่...ผมฝากล้างกระทะกับหม้อด้วยแล้วกันนะ”
“เรื่องอะไร...นายก็ล้างเองสิ”
“โห...ผมชมซะขนาดนี้ไม่เคลิ้มหน่อยเหรอคุณ อ้าว...แล้วนี่คุณล้างจานยังไงเนี่ย ล้างเป็นจริงหรือเปล่า”
“ทำไมล่ะ”
“นี่...มันต้องล้างอย่างนี้” แล้วประกบหลังจับมือเธอช่วยล้างจาน ปากก็อธิบาย “มือข้างนึงต้องจับจานอย่างนี้ ส่วนมืออีกข้าง...”
“ทำอะไรของนายเนี่ย...ปล่อย!”
ดาวประดับถองเขาด้วยความอาย ศิวกรหัวเราะอย่างมีความสุขเป็นครั้งแรกในรอบหลายปีแล้วผละไป สีดาเฝ้ามองด้วยความพอใจแล้วอดไม่ได้จะยกความดีนี้ให้ดาวประดับ
“ขอบใจนะหนูดาว”
“ไม่ต้องหรอกค่ะ...จานแค่นี้เอง”
“น้าขอบใจเรื่องกรน่ะ หนูดาวรู้ไหมว่าน้าไม่เคยเห็นกรเขายิ้มอย่างนี้มาตั้งนานแล้ว”
“เอ่อ...เขาคงชอบแกล้งดาวมั้งคะ”
“ไม่หรอก น้ารู้ว่าหนูดาวก็รู้ว่ากรเขารู้สึกยังไง”
ดาวประดับเขินมาก แต่ไม่ทันพูดอะไร เธอกับสีดาก็ต้องตกใจสุดขีดเมื่อเห็นศิวกรทรุดฮวบต่อหน้าต่อตา!
ooooooo
ศิวกรอาการกำเริบและถูกส่งโรงพยาบาลด่วน โดยไม่รู้เลยว่าเพื่อนรักอย่างเมฆก็ตกอยู่ในสถานการณ์ลำบากเช่นกัน เพราะพวกนพดลจับฉัตรชิตาเป็นตัวประกัน!
เดชารับช่วงต่อจากนพดลนำร่างหมดสติของฉัตรชิตาไปตึกร้างแห่งหนึ่ง และส่งสารถึงเมฆให้มาช่วย เมฆเห็นภาพฉัตรชิตาหน้าตาบวมฉึ่งก็ร้อนใจผลุนผลันขับรถออกไปทันที
ระหว่างที่สีดาช็อกกับผลการวินิจฉัยของหมอที่ว่า ศิวกรได้รับผลกระทบกระเทือนทางสมองต้องผ่าตัดด่วน เมฆก็ถูกลูกสมุนของเดชาทำให้สลบ และจับไปมัดรวมกับฉัตรชิตา
นพดลกับเมทินีร่วมฟังเดชาเค้นคอเมฆด้วย โดยสวมหน้ากากปิดบังหน้าตา กระนั้นเมฆก็เดาได้เลาๆว่านพดลกับเมทินีน่าจะมีส่วนกับเรื่องนี้
เมฆพยายามหาทางหนีทีไล่ไม่บอกเรื่องศิวกรเพื่อนรัก แต่สภาพหวาดกลัวของฉัตรชิตาก็ทำให้เขาต้องคิดหนัก
“เมฆ...ฉัน...ฉันกลัว”
น้ำเสียงหวาดๆของเธอทำให้เขาแทบคลั่ง แล้วก็ถึงกับตาเหลือก เมื่อหนึ่งในกลุ่มคนร้ายเอาปืนจ่อขมับฉัตรชิตา
“แกจะบอกมาดีๆ หรือจะต้องเห็นศพแฟนแกก่อน”
ฉัตรชิตากลัวมาก ตัวสั่นจนเมฆต้องตัดใจ แต่ไม่ทันพูดมือถือของเขาก็ดัง!
สีดานั่นเองที่ใช้มือถือศิวกรโทร.หาเมฆ โชคดีที่เมฆยังบันทึกเบอร์ศิวกรเป็นชื่อศิวัช ความลับเรื่องศิวกรปลอมตัวเป็นศิวัชเลยยังเป็นความลับต่อไป เดชาไม่ได้สะระตะเรื่องนี้ คว้ามือถือของเมฆมากดรับแทน
“เอ่อ...ใช่เบอร์ของเมฆหรือเปล่าคะ”
“ใช่ครับ พอดีเมฆเขาวางมือถือเอาไว้ มีอะไรบอกได้เลยครับ”
“ถ้าอย่างนั้นฝากบอกเมฆให้โทร.กลับแม่ดาแล้วกันนะคะ”
เดชาอยากหลอกถามเรื่องศิวัชต่อ เลยแกล้งพูด
“คงจะอีกนานน่ะครับ พอดีเมฆเขาประชุมอยู่ ศิวัชเป็นอะไรหรือเปล่าครับ”
สีดานิ่วหน้าด้วยความระแวง เดชาพอเดาได้รีบแก้ตัว










