ตอนที่ 3
ขณะสองสาวชะเง้อมองอคินกับอรนิภานั้น ศรันย์ก็ร้องทักเสียงดัง
“น้องริศา จับได้แล้ว” แล้วตรงเข้าคว้ามือริศาไปกุมทันที กลายเป็นอคินควงกับอรนิภาและศรันย์กุมมือริศามองกันอยู่ ริศาตัดสินใจชวนศรันย์ไปบริษัทบลูไคท์กันเดี๋ยวนี้เลย ศรันย์มองวีรนุชถามว่าแล้วทนายล่ะ
“ให้เขาไปฟังการประชุมของเราที่บริษัทด้วยดีกว่าค่ะ”
วีรนุชหันมองอคินตาขวางแล้วตามริศาไป อคินมองตามริศาที่ไปกับศรันย์อย่างเป็นห่วง
ooooooo
วันนี้กิตติปลอมเป็นคนส่งของหอบช่อดอกไม้ไปที่บริษัทบลูไคท์ แลกบัตรกับพนักงานแล้วรีบเข้าไปที่ห้องน้ำตามแผน พอเข้าห้องน้ำก็รีบพ่นสีสเปรย์ที่ผนังห้องน้ำอย่างเร็ว อึดใจเดียวตัวอักษรสีแดงก็เต็มผนัง
ศรันย์พาริศาเข้าบริษัทโอบเอวพาเข้าห้องประชุม บอกว่าตนจะไปเตรียมเอกสาร ให้ริศาเข้าไปเก็บของในห้องอาสารัตถ์เพราะไม่มีความจำเป็นต้องใช้แล้ว
ริศายังทำใจไม่ได้เรื่องพ่อ เธอเดินไปอีกทาง ศรันย์จะตามก็ถูกวีรนุชมาขวางด่าว่าพูดอะไรโง่ๆแบบนั้นกับริศาได้ยังไง ศรันย์ผลักวีรนุชให้พ้นทาง ก็ถูกกิตติที่นั่งดูอยู่หยิบปากกาปาใส่หัวโป๊กแล้ววิ่งตามริศาออกไป
กิตติวิ่งไปบอกริศาว่าพ่อเธอไม่ได้เสียชีวิตเพราะอุบัติเหตุ มีคนในบริษัทวางแผนปล้นเครื่องบิน พวกที่ปล้นนี่แหละที่ทำให้พ่อของเธอตาย ริศาถามว่ารู้ได้ไง ใครเป็นคนทำ ก็พอดีกิตติเห็นศรันย์เดินมาจึงรีบหนีไป
ศรันย์มาขอโทษริศาสัญญาว่าจะไม่พูดถึงพ่อน้องอีกแล้ว น้องยังทำใจไม่ได้ก็ไม่บอก แล้วพาริศากลับไปห้องประชุม จัดแจงเอาใบเซ็นรับโอนหุ้นให้เซ็น แล้วยังเอาใบเซ็นแต่งตั้งตนเป็นผู้ดูแลแทนอ้างว่าริศายังต้องใช้เวลาเรียนรู้งานอีกมาก วีรนุชขัดขึ้นว่าเรื่องนี้ให้ริศาคิดเองดีกว่า
ศรันย์อ้างว่าริศายังไม่มีประสบการณ์อะไร ตนมาช่วยดูแลให้ไม่ดีตรงไหน
“มันไม่ดีตรงที่สาริศาเขามีคนทำหน้าที่ดูแลรับผิดชอบชีวิตของเขาอยู่แล้วน่ะสิครับ คุณศรันย์”
ศรันย์หันด่าอคินถามว่าใครเชิญมา เขาไม่มีสิทธิ์เข้ามาเหยียบบลูไคท์อีกแล้ว อคินเลยไหว้กรรมการทุกคนบอกว่าตนอยากคุยกับทนายของบลูไคท์เหมือนกันว่าที่นี่มีสิทธิ์อะไรสั่งพักงานตนไม่มีกำหนด
ทนายบอกว่าตนเปล่า ทางฝ่ายกฎหมายของบลูไคท์ ไม่ได้เป็นคนบอกว่า...ทนายพูดไม่ทันจบนุชก็วิ่งหน้าตื่นตกใจเข้ามาบอกศรันย์ว่า
“คุณศรันย์คะแย่แล้วค่ะ คุณศรุตกำลังช็อก!”
ooooooo
ศรันย์วิ่งไปที่ห้องน้ำชายเห็นพนักงานมุงกันเต็ม เขาตกใจแทบเสียสติร้องเรียกถามว่าพ่อเป็นอะไร...ศรุตพยายามยกมือชี้ไปที่ผนังและกระจกห้องน้ำชายถาม
“ใคร...ใครมันกล้าทำแบบนี้ มันเป็นใคร”










