ตอนที่ 14
ในเวลาไล่เลี่ยกัน สมาพันธ์ภาคีนักธุรกิจแห่งประเทศไทยที่ทะนงเป็นโต้โผใหญ่จัดให้มีการประชุมวาระพิเศษขึ้น นักธุรกิจคนสำคัญๆของเมืองไทยมาร่วมประชุมกันมากหน้าหลายตา นอกจากนี้ยังมีนักการเมือง ข้าราชการระดับสูง มิสเตอร์เอ็มทีและบุญเลิศรวมทั้งเกรซก็มาร่วมประชุมด้วย มีจิ๊บเป็นผู้ติดตาม งานนี้มีการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มข้น หลังทักทายทะนงเสร็จ เกรซเดินมาถามจิ๊บว่าเป็นอย่างไรบ้าง
“จิ๊บลองสแกนพื้นที่บริเวณนี้ไม่พบอะไรผิดปกติ”
เกรซพยักหน้ารับรู้แล้วเดินไปหาบุญเลิศแสดงความเสียใจที่สูญเสียพี่ชายไป เขาขอบคุณเธอมาก หวังว่าสิ่งที่เราจะทำวันนี้คงไม่ทำให้พี่ชายของเขาตายฟรี...
ไม่นานนัก การประชุมก็เริ่มต้นขึ้น ประตูห้องประชุมถูกปิดไว้ทุกด้านมีตำรวจคอยเฝ้าระวังโดยรอบ ทะนงซึ่งเป็นประธานในครั้งนี้กล่าวเปิดการประชุม
“ผมยกย่องทุกท่านที่มาประชุมวันนี้ อันตรายที่ผ่านมาหยุดเราไม่ได้ เราจะต้องหยุดยั้งไป่หลงให้ได้ นี่คือสงครามการเงินและ ณ นาทีนี้เป็นต้นไป เราขอประกาศสงครามกับองค์กรลับไป่หลง”
จิ๊บก้มมองสมาร์ทวอตช์พบสิ่งผิดปกติบางอย่างมองไปรอบๆด้วยท่าทีสงบนิ่งไม่แสดงอาการพิรุธให้เห็น
ooooooo
ที่ห้องทำคดีไป่หลง อังคารวางสายจากฝ่ายทะเบียนก็เดินมารายงานมนตรีที่ดูแผนที่อยู่กับชาติว่าพบร่องรอยของอมนุษย์แล้ว จากนั้นส่งไลน์ที่ได้รับจากฝ่ายทะเบียนให้ดู
“ดีมาก เตรียมตัวให้พร้อม ไปกันเลย”
ชาติถามประชิด อังคารและพัลลภที่ยังเดินโขยกเขยกกันอยู่ว่าไหมไหว ประชิดพูดติดตลกถึงข้างนอกจะดูเหมือนไม่ไหวแต่ข้างในสู้ตาย ทุกคนต่างหัวเราะ ก่อนจะพากันออกไป...
ทางด้านวาสนาล้างหน้าเสร็จเดินกลับมาขึ้นรถเห็นอินทรีแดงรื้อค้นข้าวของกระจุยกระจายถามว่าได้อะไรที่เป็นประโยชน์บ้างไหม เขายกมือถือเครื่องหนึ่งให้ดูคุยอวดว่าเจอแจ็กพอตเข้าแล้ว...
ระหว่างการประชุม ทะนงยังแนะนำให้ผู้ร่วมประชุมรู้จักกับนักธุรกิจต่างชาติสี่คน มีทั้งฝรั่ง จีนและตะวันออกกลาง รวมทั้งมิสเตอร์เอ็มที ในฐานะตัวแทนจากองค์กรต่อต้านอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ ทั้งสี่คนจะมาร่วมเซ็นสัญญาเพื่อก่อตั้งองค์กรต่อต้านไป่หลง ทุกคนในห้องต่างตบมือต้อนรับ เกรซเห็นท่าทางของจิ๊บ กระซิบถามว่ามีอะไรหรือเปล่า เธอกระซิบตอบ
“ตรวจเจอคลื่นความถี่แปลกๆ เหมือนมีใครบางคนกำลังแอบถ่ายทอดเหตุการณ์ในห้องนี้ออกไป”
เกรซพยักหน้ารับรู้ แต่ไม่แสดงอาการใดๆ...
เป็นอย่างที่จิ๊บพูดไว้ไม่มีผิด ภายในห้องเก็บของชั้นใต้ดินของที่นี่ กริชที่ใบหน้าเต็มไปด้วยบาดแผลนั่งดูไลฟ์สดจากห้องประชุมผ่านมือถือของตัวเอง โดยมีสมุน 4 คนและชายอีกคนหนึ่งถูกจับมัดมือมัดเท้ามีถุงดำครอบหัวทำให้ไม่รู้ว่าเป็นใคร...
การถ่ายทอดสดการประชุมที่สมาพันธ์ภาคีนักธุรกิจแห่งประเทศไทยผ่านกล้องที่ซ่อนไว้ครั้งนี้ ครีมกับจางเฟยหย่วนนั่งดูอยู่เช่นกัน ต่างหัวเราะหยันที่เห็นพวกนั้นจะตั้งองค์กรต่อต้านไป่หลง...
ด้านอินทรีแดงจอดรถส่งวาสนาแถวย่านกลางกรุง จะได้เอามือถือของพวกไป่หลงไปให้ฮ็อตแกะข้อมูล เสร็จเมื่อไหร่เธอจะโทร.แจ้งแล้วขยับจะไป อินทรีแดงร้องเรียกเธอไว้ ยังมีอีกเรื่องหนึ่งที่อยากขอร้อง เขาอยากให้เธออยู่ห่างจากเรื่องนี้ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ไม่ต้องมาช่วยเขาอีก เธอตัดพ้อกลัวเธอเป็นตัวถ่วงหรือ
“คุณเข้าใจผิดมากเลย ครั้งนี้เรารอดตายมาได้หวุดหวิด ผมไม่กลัวตายแต่ถ้าคุณเป็นอะไรไปล่ะก็ ผมรับไม่ได้จริงๆ ผมเข็ดแล้ว ผมไม่อยากให้คุณต้องมาเสี่ยงกับผมอีก วาสนาคุณรับปากผมอย่ามายุ่งกับเรื่องนี้อีก”
“คุณกำลังทำให้ฉันโกรธนะ”
“ถ้าคุณไม่รับปากผม คุณก็กำลังทำให้ผมเสียสมาธิ รับปากผมนะครับ”
วาสนารับปากส่งๆเพื่อให้เขาสบายใจ แต่ไม่เคยคิดจะทำตามที่เขาขอร้องแม้แต่น้อย...
ชาติ ประชิดและพัลลภตามรอยอมนุษย์มาจนถึงชุมชนแออัดตามที่ฝ่ายทะเบียนให้ข้อมูลมา เอารูปถ่ายของอมนุษย์ให้ชาวบ้านแถวนั้นดู ทำให้รู้ว่าอมนุษย์ชื่อคมหายหัวไปหนึ่งเดือนแล้วเห็นว่ามีคนจ้างไปทำงาน
“ไปทำที่ไหนรู้ไหม” ชาติซัก
“เห็นบอกเป็นตึกแถวหรือไงเนี่ย อยู่ใกล้ๆ เนี่ยแหละ เห็นบอกว่านายจ้างชื่อโชติ”
มนตรีที่นั่งรออยู่ในรถสวมวิทยุสื่อสารตัวจิ๋วที่หู วิทยุนี้เชื่อมต่อกับลูกทีมทุกคนทำให้ได้ยินที่ชาวบ้านพูดชัดเจนหรือคนชื่อโชติจะเป็นคนเดียวกับ ดร.โชติ จังหวะนั้นอินทรีแดงโทร.มาถามเขาพอดีว่ามีอะไรคืบหน้าบ้าง
“กำลังจะได้เบาะแสสำคัญ”...
ขณะที่ตำรวจสืบสาวราวเรื่องเข้าไปใกล้ตัวคนสร้างกองทัพอมนุษย์ วาสนาเอามือถือมาให้ฮ็อตแฮ็กข้อมูล ถ้าเขาได้เรื่องอะไรให้โทร.บอกด้วย แล้วขยับจะไป เขาร้องถามว่าจะไปไหน
“ไปช่วยคนที่เขาไม่อยากให้ช่วย” พูดจบวาสนาผละไป
ooooooo
Powered by Froala Editor










