ตอนที่ 12
ณ โรงแรมหรู จางเฟยหย่วนนั่งจิบเบียร์อย่างสบายอารมณ์ โดยมีวินและอังคารเฝ้าอยู่ มีเสียงวิดีโอคอลในมือถือของเขาดังขึ้น จางเฟยหย่วนเห็นเบอร์แปลกๆแต่ก็รับสาย มารุตโทร.มาขอสัมภาษณ์มีข่าวลือว่าเขาจะเดินมาเมืองไทยจริงเท็จแค่ไหน จางเฟยหย่วนยังไม่ทันตอบคำถาม อังคารกดวางสายเสียก่อน
“ไอ้นี่มันขยะ อย่าไปเสียเวลากับคนอย่างมันเลย”
“ผมตัดสินใจเองได้ คราวหลังอย่าทำแบบนี้อีกนะ” จางเฟยหย่วนมองอังคารไม่พอใจ
“ผมอาจจะต้องทำแบบนี้อีก ตราบใดที่ผมยังเป็นบอดี้การ์ดให้คุณ”
ooooooo
มารุตฉุนขาดที่โดนวางหูใส่ ทั้งบ่นทั้งด่าจนวาสนาที่นั่งอยู่ด้วยรำคาญก็เลยมีปากเสียงกัน
ชาลีต้องสั่งให้ทั้งคู่หยุดเถียงกัน แล้วเอาคลิปที่มารุตวิดีโอคอลคุยกับจางเฟยหย่วนมาเปิดดูอย่างตั้งใจ
“ฉันว่าจางเฟยหย่วนอยู่ในเมืองไทย” ชาลีว่าแล้วชี้ให้ดูคลิปที่ตัวเองกดหยุดไว้ “ผ้าม่านลายนี้เป็นของโรงแรมอัมรินเทล แล้วดูเงาสะท้อนในแก้วเบียร์ โลโก้บนขวดเบียร์เป็นยี่ห้อกูปรี เป็นโฮมบริว ร้านคนไทยทำกันเอง ผ้าม่านบวกกับกูปรี ฉันว่าจางเฟยหย่วนอยู่เมืองไทย”
“ว้าว ข่าวใหญ่เท่าไข่ไดโนเสาร์ ผมจะไปดักหน้าอัมรินเทลเลย รับรองเรตติ้งพุ่งแน่ๆ”
วาสนาไม่เห็นด้วย ขืนเราเปิดข่าวว่าจางเฟยหย่วนอยู่เมืองไทยแล้วพวกต่อต้านเขาแห่ไปดักรอเอาของปาหน้าหรือไปดักยิง เราจะรับผิดชอบผลที่ตามมาไม่ไหว มารุตเถียงคอเป็นเอ็น ต่อให้เขาโดนยิงก็ไม่ใช่ความรับผิดชอบของเรา ถึงแม้เราไม่เปิดข่าวนี้ อีกไม่นานสำนักข่าวอื่นก็ต้องเปิดอยู่ดี ถึงตอนนั้นเราจะกลายเป็นผู้ตาม
“ถ้าเรื่องแค่นี้คิดไม่ได้ก็อย่าเรียกตัวเองว่าสื่อมวลชนเลย มันก็แค่คนมีสื่ออยู่ในมือ” วาสนาโต้ไม่ยอมแพ้
“พอ...ผมตัดสินใจแล้ว วาสนา คุณไปบอกพวกตำรวจ ผมให้เวลาพวกเขาเตรียมตัวครึ่งชั่วโมง แล้วผมจะเปิดข่าวนี้”
มารุตยอมรับข้อเสนอ หวังว่าภายในครึ่งชั่วโมงจะไม่มีสำนักข่าวอื่นรู้เรื่องนี้ และเขาขอเป็นคนเปิดข่าวนี้เอง วาสนาเองก็รับข้อเสนอนี้ได้เช่นกัน รีบโทร.หามนตรีแต่ติดต่อไม่ได้ มารุตหัวเราะเยาะ
“จะติดต่อได้หรือไม่ได้ ยังไงเราก็ให้แค่ครึ่งชั่วโมงนะ มืออาชีพกันแล้วไม่งอแง”
วาสนาถอนใจเซ็ง ไม่นานนักเธอมาถึงล็อบบี้โรงแรมอัมรินเทล แกล้งเอาแมลงสาบปลอมโยนใส่ลูกค้า เสียงกรีดร้องของลูกค้าดึงให้พนักงานเคาน์เตอร์รีบวิ่งไปดู วาสนาสบช่องปีนข้ามเคาน์เตอร์ คีย์หาห้องพักของจางเฟยหย่วนจากคอมพิวเตอร์ของโรงแรม ก่อนจะรีบเผ่นไปจากตรงนั้น เมื่อมาถึงห้องเป้าหมาย เธอทุบประตูปังๆ พัลลภเดินไปแง้มประตูพร้อมกับซ่อนปืนไว้ด้านหลังเตรียมรับสถานการณ์
“ฉันรู้ว่าคุณคือคนของสารวัตรมนตรี ฉันรู้ว่าจางเฟยหย่วนอยู่ในห้อง ฉันรู้ว่ามืออีกข้างของคุณถือปืนอยู่พร้อมจะยิง ฉันมาช่วยคุณ” วาสนาเปิดกระเป๋าถือ เลิกเสื้อให้ดูว่าไม่มีอาวุธ พัลลภจึงยอมเปิดประตูให้เธอเข้ามา
Powered by Froala Editor










