ตอนที่ 13
ทำไม่ไหว เพลาจึงชวนไสไปช่วยกันทำ ไสอ้าปากค้างที่มาลงที่ตนจนได้...เพลาช่วยไสกวาดฝุ่นไปบ่นไปที่ไม่เคยทำความสะอาดกันบ้างเลย ฝุ่นถึงได้หนาขนาดนี้ ไสโบ้ยว่าไม่ได้นอนห้องนี้จะรู้ได้อย่างไร
ooooooo
นิธิมาเพิ่งเห็นเด็กถึงกับตกใจ เกียวหาว่าทำเป็นผู้ดี ลูกตนไม่ได้พิการแค่เจริญเติบโตช้า
“แล้วหมอเขาแนะนำว่ายังไงบ้าง” นิธิมาถามอย่างห่วงใย
“โอ๊ย หลายอย่าง พูดวนไปวนมา ฟังแล้วเวียนหัวไปหมด”
“แล้วจำได้บ้างไหม...”
“ไม่...จำไม่ได้เลย”
นิธิมาเวทนาเด็ก ตำหนิเกียว “ตอนนี้เธอเป็นแม่คนแล้วนะ จะทำตัวเหมือนเก่าไม่ได้”
“น่าเบื่อ รู้ว่าหนูไม่ชอบให้ใครมาสอน คุณก็ชอบทำ”
“ฉันเวทนาเด็กหรอก ถ้าไม่ใช่ลูกพี่เพลา ฉันไม่มองด้วยซ้ำ” นิธิมาหน่ายใจกับท่าทางเกียว
ด้านผ่องกลับบ้านคุยโอ่ให้ชาวบ้านฟังว่าลูกเกียวน่าเกลียดน่าชัง แถมเป็นผู้ชายเสียด้วย แต่ชาวบ้านเหน็บอย่างไรเสียก็เป็นลูกเมียน้อยอยู่ดี ใครจะให้เกียรติ
“แต่เห็นว่าพ่อเด็กจะรับรองบุตร วาสนานังเกียวนี่มันดีจริงๆ เสียอย่างเดียว...เกิดมาผิดปกติ ไม่สมประกอบ”
“พิการหรือว่าปัญญาอ่อนวะนังผ่อง” ชาวบ้านเยาะหยันทันที
“อุ๊ย...นี่นังผ่องเผลอพูดอะไรไปเนี่ย ถ้ารู้ถึงหูนังไส นังผ่องตายแน่ ไม่เอา ไม่พูด ไม่พูด ไอ้ที่ได้ยินไปน่ะ เหยียบให้มิดเลยนะ ไปก่อนล่ะ” ผ่องรู้ตัวว่าหลุดปากรีบเดินจ้ำออกไป
ชาวบ้านหัวเราะเยาะหยัน สังเวชใจว่าเกียวกับไสคงไม่ยอมเลี้ยงเด็กคนนี้เองแน่...
แล้วค่ำคืนนั้น ลูกเกียวร้องไห้จ้า เกียวทำอะไรไม่ถูกเอาแต่โมโหส่งเสียงเอ็ดให้เงียบ เพลาเข้ามาถามว่าลูกหิวนมหรือเปล่า เกียวสวนอย่างไม่สบอารมณ์
“แล้วจะให้หนูทำยังไง หนูทำไม่เป็น หนูไม่ชอบเด็ก แล้วทำไมคุณไม่ช่วยเลี้ยง”
“ฉันกำลังนั่งผูกดวงเด็ก...”
เกียวโวยวายเอ็ดลูกอีก ไสปราดเข้ามาบอกให้เอานมให้ลูกกินและเปลี่ยนผ้าอ้อม เกียวถึงได้เห็นว่าลูกถ่ายออกมาเต็มผ้าอ้อม เธอร้องยี้ไม่ยอมทำความสะอาดให้ลูก ไสหยิกเกียวแล้วเข้าทำแทน เพลาเห็นแล้วสมเพชตัวเองและลูก เดินกลับออกมา
มธุรสถือแก้วชาเดินผ่านมาเยาะ ถามดวงเด็กวาสนาดีบ้างไหม เพลาบอกว่าดวงเด็กห้ามทำนาย มันไม่ดี เธอจึงเหน็บ
“ฝากบอกนังเกียวด้วย เป็นเมียน่ะเป็นง่าย ยิ่งเป็นเมียน้อย ไม่ต้องรับผิดชอบอะไรยิ่งง่าย แต่เป็นแม่คนสิเรื่องใหญ่ ถ้าไม่รักลูก ไม่มีวุฒิภาวะของความเป็นแม่ ต่อให้ดวงเด็กดีแค่ไหน เด็กก็เหมือนตกนรกทั้งเป็น”
เพลาถอนใจอย่างปวดร้าวแต่ก็ออกปากขอบใจ...
ooooooo
วันต่อมา เดชนั่งทำงานอยู่ในห้องทำงานภายในบ้าน พิมพ์รสเข้ามายืนอย่างเจียมเนื้อเจียมตัว เดชยังก้มหน้าทำงานไม่เงยมอง เธอค่อยๆเอื้อนเอ่ย










