ตอนที่ 18
หนึ่งกับลูกน้องสองคนเข้ามาขวางหน้าอดิศักดิ์กับแคทที่กำลังลัดเลาะเข้ามาภายใน
“ยินดีต้อนรับกลับบ้าน คุณแคท คุณอดิศักดิ์ ยกมือขึ้น”
แคทกับอดิศักดิ์ยอมจำนนและจะเดินตามหนึ่งไป ทันใดมีเจ้าหน้าที่ใส่ไอ้โม่งคลุมหน้าในชุดปฏิบัติการของหน่วยถือปืนเก็บเสียงเข้ามา ไม่ทันที่หนึ่งกับลูกน้องจะตั้งตัวก็โดนยิงล้มลงเสียก่อน...
ฝ่ายกำพลกับเอื้อมยังต่อสู้กับอุกฤษณ์ โดยมีเสียงเชียร์จากทีมเอและเจ้าหน้าที่อื่นๆ
ทันใดเสียงปืนดังขึ้น พวกเล็บดำล้มลง อุกฤษณ์ตกใจหันไปเห็นแคท อดิศักดิ์ และเจ้าหน้าที่ที่ใส่ไอ้โม่งคลุมหน้ากราดยิง จึงพากันวิ่งหลบ แคทกับอดิศักดิ์เข้าไปช่วยกำพลกับเอื้อมและเก็บปืนของคนที่ตายมาเป็นอาวุธยิงสู้กับกลุ่มของอุกฤษณ์ และหาทางหนีออกไปทางหน้าต่าง โดยคนที่มาช่วยหลอกล่อพวกอุกฤษณ์เอาไว้ให้
อุกฤษณ์เจ็บใจ พลันต้องสะดุ้งเมื่อไอ้โม่งยื่นหน้ามาทางด้านหลังทำเสียงจุ๊ปากใกล้ๆ แอบล้วงโทรศัพท์มือถือจากกระเป๋าโดยไม่รู้ตัว เขากราดเกรี้ยวถามว่า
แกเป็นใคร ไม่ทันไรก็โดนฟาดด้วยด้ามปืนล้มลง ลูกน้อง อุกฤษณ์เห็นจึงกราดยิงใส่ ไอ้โม่งกระโจนหนีได้ทัน
ขณะที่พวกแคทกำลังไต่หนีลงมาทางหน้าต่าง ไอ้โม่งตามมาส่งโทรศัพท์มือถือของอุกฤษณ์ให้และกำชับว่า
“รีบส่งเพลงไปให้ที่สถานีโทรทัศน์ หาทางเปิดเพลงแบบรีเวิร์ส คนที่โดนสะกดก็จะหลุดออกจากอำนาจจิตของจางซูเหลียง...ไปเร็ว”
พวกแคทรีบวิ่งมาขึ้นรถขับหนี โดยที่ไอ้โม่งยังช่วยยิงสกัดพวกอุกฤษณ์ไว้ให้ ท้องฟ้ายังคงมืดครึ้มมีลมแรง อุกฤษณ์วิ่งตามมาเห็นไอ้โม่งขี่มอเตอร์ไซค์กำลังหนี เขาถอดแว่นออกเผยให้เห็นว่าคือสิงห์ อุกฤษณ์ยิ่งเจ็บใจระคนประหลาดใจที่สิงห์ยังไม่ตาย
ครั้งนั้นที่สิงห์โดนคมน์ยิงหลังต้นไม้ใหญ่เป็นการหลอก อุกฤษณ์รีบโทร.รายงานจางซูเหลียง
“นายท่านครับ ไอ้สิงห์มันยังไม่ตาย ตอนนี้มันกลายเป็นศัตรูของเราไปแล้ว...ครับๆ ผมกับพวกจะรีบไปที่นั่นทันที”
ooooooo
อดิศักดิ์ขับรถพาแคท กำพล และเอื้อมตรงไปยังสถานีโทรทัศน์ ระหว่างรถติดจอดนิ่งอยู่ กำพลแย้งว่าไม่ควรเชื่อผู้ชายคนนั้น แม้เขาจะช่วยพวกเราไว้
แคทเห็นคนที่เดินอยู่ริมถนนมีเล็บเป็นสีดำ เชื่อว่าคงเป็นเหยื่อรายหนึ่ง จึงลงจากรถไปทำให้เขารู้สึกตัว เหยื่อรายนั้นสะดุ้งไม่รู้ว่าทำไมตัวเองถึงมาอยู่ตรงนี้ แคทให้ส่งกระเป๋ามาและไล่ให้เขากลับบ้านไป พอเปิดดูเป็นระเบิดสังหารจริงๆ จึงบอกกำพลว่าเราไม่มีทางเลือก ถ้าไม่ทำอะไรสักอย่าง แล้วชี้ไปที่เหยื่อรายอื่นๆ










