ตอนที่ 11
จำเนียรกับรื่นเข้าครัวเตรียมทำข้าวต้มไว้คอยเมกับอิงอร ครู่หนึ่งรื่นแว่วเสียงซอสามสายมาจากที่ไกลๆ ใจที่หวาดระแวงอยู่แล้วยิ่งกลัว ถามจำเนียรว่าได้ยินเหมือนตนไหม
จำเนียรเงี่ยหูฟังจึงได้ยินเสียงซอสามสาย มองหน้ารื่นถามว่ามันดังมาจากไหน?? รื่นไม่สนใจว่าจะดังมาจากไหน วิ่งออกจากห้องครัวไปเลย จำเนียรเห็นท่าไม่ดีวิ่งตามไปด้วย อ่ำเห็นสองคนวิ่งไล่ตามกันมาถามว่าอะไรกัน วิ่งไล่จับกันเหมือนเด็กไปได้
“เราไม่ได้เล่นกันนะตาอ่ำ เราวิ่งหนีเสียงผี”
“เสียงผีที่ไหน”
“เสียงดนตรีไทยนั่นไง ไม่ได้ยินเหรอตาอ่ำ” จำเนียรถามเสียงสั่นๆ อ่ำเงี่ยหูฟังพึมพำ...
“นี่มันเสียงซอนี่นา...ดังมาจากสวนด้านหลัง เอ๊ะ...หรือว่า”
พูดแค่นั้นแล้วอ่ำก็เดินอ้าวไปทางตึกใหญ่อย่างเร็ว รื่นกับจำเนียรรีบตาม จำเนียรร้องบอกอ่ำให้รอด้วย...รอด้วย...
ooooooo
อ่ำรีบมาบอกยชญ์กับปกรณ์ ทั้งสองลุกพรวด ยชญ์ถามว่าเสียงซอหรือ?
“ครับ ผมว่าเสียงมันดังมาจากทางห้องเก็บของด้านหลังสวนแน่ๆ”
“ตาอ่ำเคยบอกผมว่าที่นั่นเก็บเครื่องดนตรีเก่าใช่ไหมครับ...เมต้องถูกขังอยู่ในนั้นแน่ๆ และคงพยายามติดต่อให้พวกเรารู้โดยใช้เสียงซอเป็นสื่อ”
“งั้นเรารีบไปดูกันเถอะครับ” ปกรณ์เร่ง สีหน้ามีความหวังมาก
ยชญ์บอกอ่ำให้อยู่เป็นเพื่อนแม่เนียรกับรื่นที่นี่แล้วรีบไปกับปกรณ์ อ่ำ จำเนียร รื่นมองตามทั้งสองไปอย่างเป็นห่วง
ระหว่างไปห้องเก็บของ ยชญ์พูดอย่างดีใจว่าเมเป็นคนสีซอแน่ เตือนปกรณ์ว่าระวังหน่อยแถวนี้งูชุม
แต่ขณะทั้งสองกำลังเดินอ้าวไปนั้น ท้องฟ้าที่สดใสก็กลับกลายเป็นมืดครึ้ม ปรากฏกลุ่มเงาดำรวมตัวกันเป็นร่างเทิดออกมายืนขวางทาง จ้องยชญ์กับปกรณ์อย่างดุร้ายหมายมาด
“คิดว่าข้าจะปล่อยให้พวกเอ็งเข้าไปช่วยนังผู้หญิงสองคนนั้นได้ง่ายๆรึ”
“ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ผมก็จะช่วยเมกับคุณอรออกมาให้ได้” ยชญ์โมโหสวนทันควัน เดินเข้าหาเทิดอย่างไม่หวั่นเกรง แต่ถูกพุกปรากฏร่างมาขวางไว้ จ้องเทิดและบอกยชญ์ว่า
“ไม่ใช่เรื่องของเอ็งไอ้ยชญ์ นี่เป็นเรื่องระหว่างข้ากับพี่เทิด” เทิดไล่พุกให้ถอยไปเอ็งไม่เกี่ยว “มันเกี่ยวกับฉันมากที่สุด ทุกอย่างมันเกิดจากฉัน ฉันเป็นต้นเหตุของเรื่องทั้งหมด” เทิดถามว่าเอ็งพูดบ้าอะไร พุกเล่าต่อว่า
“ตอนที่ไอ้กล้าอายุประมาณ 10 กว่าขวบฉันเคยขอตัวมันไปช่วยงานดนตรีที่อัมพวา พี่ยังจำได้หรือเปล่า...หลังจากที่ฉันกลับจากอัมพวาครั้งนั้น...”
พุกเล่าความหลังเวลานั้นอย่างละเอียดเหมือนกับเรื่องเพิ่งเกิดขึ้นสดๆร้อนๆ...
กลับจากอัมพวาแล้ว พุกนั่งกินเหล้าอย่างเมามายคนเดียวทุกวัน เห็นเทิดเดินมาก็ชวนนั่งกินเหล้ากับน้องชายหน่อย
เทิดนั่งลงมองพุกถามอย่างแปลกใจ
“เอ็งมีอะไรหรือเปล่าไอ้พุก กลับจากอัมพวาคราวนี้ทำไมดูท่าทางแปลกๆ” พุกถามเสียงอ้อแอ้ว่าแปลกยังไง “ก็เอ็งเอาแต่กินเหล้าไม่เว้นแต่ละวัน บางทีก็นั่งสีซอทั้งวันทั้งคืน แต่ละเพลงที่เอ็งเล่นมันโหยหวนคร่ำครวญราวกับคนที่เสียใจในความรักนักหนา”
พุกอึ้ง เทเหล้าจะกรอกปากอีก แต่ถูกเทิดจับมือไว้ ห้ามดุๆ
“เฮ้ย จะกินให้มันตายไปเลยรึ เอ็งมีอะไรคับอกข้องใจก็บอกข้าได้ หรือเอ็งไปหลงรักใครแล้วเขาไม่รักตอบ ให้ข้าไปพูดจาทาบทามสู่ขอให้เอ็งไหมเล่า”










