ตอนที่ 11
เทิดคิดถึงคืนที่แอบไปไขกุญแจห้องที่ขังกล้ากับดวง เห็นดวงถูกล่ามโซ่อยู่มุมห้องหน้าตาอิดโรยนอนคุดคู้เพราะหนาวและขาดน้ำกับอาหารมาหลายวัน ส่วนกล้านอนในสภาพเหมือนคนใกล้ตาย เนื้อตัวเต็มไปด้วยบาดแผลและฟกช้ำ...
เทิดปิดประตูใส่กุญแจไว้ตามเดิม ยืนนิ่งอยู่ครู่หนึ่งแล้วทรุดนั่งน้ำตาไหลเป็นทาง พึมพำอย่างเจ็บปวด
“ข้าตั้งใจจะอโหสิให้เอ็งทั้งสองอยู่แล้ว ถ้าหากพวกเอ็งไม่ชิงหนีไปเสียก่อน เรื่องทุกอย่างมันคงไม่จบแบบนี้”
แล้วกลับห้องของตัวเองในสภาพโซเซ ลงนอนที่เตียง มือก่ายหน้าผากคิดหนัก...
“นี่ข้าทำรุนแรงกับไอ้กล้าและแม่ดวงเกินไปหรือเปล่า?” ทนไม่ได้ลุกขึ้นเดินวน “หากปล่อยไว้ แบบนี้ไม่พ้นวันสองวันมันทั้งคู่คงต้องตายอยู่ในห้องมืดนั้นแน่”
ยิ่งคิดน้ำตาก็ไหลพราก เทิดถามตัวเองอย่างคิดไม่ตกว่า “ทำไมเรื่องอัปยศเช่นนี้ต้องเกิดขึ้นกับครอบครัวของข้าด้วย ถึงอยากจะฆ่ามันสองคนให้ตาย แต่ข้าก็ทำไม่ได้...ทำไม่ได้...”
เทิดคว้าข้าวของรอบตัวขว้างปาระบายความอัดอั้นแล้วทรุดร้องไห้เสียใจอย่างที่สุด...
ooooooo
เช้ามืดวันรุ่งขึ้น ยชญ์กับปกรณ์ยังนั่งคิดเครียดอยู่ที่ตึกวิจิตรวาทิน ยชญ์ลุกพรวดขึ้นอย่างร้อนใจ
“นี่เรารอมาทั้งคืนแล้วนะครับคุณปกรณ์ ผมรอต่อไปอีกไม่ไหวแล้ว คุณทวดพุกก็หายไป”
“ผมขออนุญาตใช้ห้องพระที่นี่หน่อยได้ไหมครับ” ปกรณ์ถาม ยชญ์พยักหน้ายินดี นึกได้ว่าถ้าปกรณ์นั่งสมาธิอาจเห็นก็ได้ว่าครูเทิดเอาเมกับอิงอรไปไว้ที่ไหน ปกรณ์บอกว่า “ผมจะลองดู”
แต่ปกรณ์เข้าไปนั่งสมาธิพักใหญ่ก็ลืมตาขึ้น ยชญ์รีบถามว่าเจอเมกับคุณอรหรือเปล่า? ปกรณ์ส่ายหน้า ทั้งสองยิ่งเครียดหนัก
ที่ห้องเก็บของ...เมพยายามหาทางออก เห็นอิงอรท่าทางไม่ค่อยดีถามว่าเป็นยังไงบ้าง อิงอรบอกว่าหิวน้ำและหายใจไม่ค่อยออก
“อดทนหน่อยนะคะพี่อร เท่าที่เมสำรวจดู
ในนี้น่าจะเป็นห้องเก็บของแต่ไม่มีหน้าต่างเลย
ประตูก็ถูกล็อกจากด้านนอก ถึงจะมีคนผ่านมาก็คงไม่คิดว่าพวกเราจะอยู่ข้างใน”
“แต่พี่เชื่อว่าพี่กรณ์กับคุณยชญ์ต้องพยายามตามหาเราอย่างสุดความสามารถ พี่จะอดทนค่ะ น้องเมไม่ต้องเป็นห่วง”
เมพยักหน้า แล้วพยายามคลำสำรวจข้าวของในห้อง พลันก็ชะงักเมื่อคลำเจอคันชัก บอกอิงอรว่า
“เมเจอซอค่ะ...ที่แท้ในห้องนี้เป็นที่เก็บเครื่องดนตรีเก่านี่เอง” นอกจากซอแล้วเมยังเจอผืนระนาดอีกด้วย เมนึกอะไรได้บอกอิงอรอย่างตื่นเต้นมั่นใจว่า “เมมีวิธีที่จะให้ใครๆรู้แล้วว่าเราอยู่ในนี้”
อิงอรพยักหน้าอย่างมีความหวังขึ้นมาด้วย
จำเนียรเห็นยชญ์กับปกรณ์เคร่งเครียดคร่ำเคร่งมาทั้งคืนทั้งวันจนอิดโรย ถามว่าจะทานอะไรหน่อยไหม
ยชญ์บอกว่าพวกตนอดทนได้แต่เมกับอิงอรไม่ได้ทานอะไรเลยตั้งแต่เย็นวาน จำเนียรว่าตนก็เป็นห่วงแต่ไม่รู้จะช่วยยังไง
ปกรณ์ขอบคุณและถ้าไม่เป็นการรบกวนเกินไปก็อยากให้ช่วยเตรียมอาหารอ่อนๆไว้ ถ้าพวกตนเจอสองคนเมื่อไหร่ก็จะได้ให้ทานเลย
“ได้ค่ะ ดิฉันจะไปบอกให้รื่นทำข้าวต้มเอาไว้ให้หนูเมกับคุณอร” จำเนียรรีบออกไปอย่างกระตือรือร้น
ยชญ์กับปกรณ์ยังคิดเครียดหาทางที่จะตามหาเมกับอิงอรให้เจอ










