ตอนที่ 11
“ขอให้พายุโทสะของคุณได้ทุเลาและสงบลงเถิดเจ้าค่ะ” เสียงแม่ชีอธิษฐานแล้วสวดคาถามหาจักรพรรดิต่อ เสียงวิญญาณกรีดร้องด้วยความโกรธ แล้วพิกุลก็ปรากฏตัวขึ้นใกล้แม่ชีที่ยังสวดคาถาอยู่
“แม่ชี...แม่ชีจะมายุ่งเรื่องนี้ไม่ได้ บุญล้างบาปมิได้...มันจะไม่จบเท่านี้” พูดแล้วพิกุลก็หายไป
พายุฝนสงบลงทุกอย่างกลับสู่สภาพปกติ แม่ชีพุดกรองลืมตาขึ้นอย่างรับรู้ว่าไม่มีอะไรจะหยุดความแค้นของพิกุลได้
เรือเมล์เทียบท่าที่ริมตลิ่งแห่งหนึ่ง ชาวบ้านมามุงดูว่าเกิดอะไรขึ้น เอียดร้องขอชาวบ้านให้ช่วยพาคุณทิพย์เกสรที่ยังหมดสติอยู่ไปโรงพยาบาลด้วย ครู่หนึ่งสมคิดแหวกชาวบ้านเข้ามาถามเอียดว่าคุณนิสาล่ะ เอียด บอกว่าคุณนิสาตกน้ำไป สมคิดกังวล ตัดใจอุ้มทิพย์เกสรออกไปก่อน
กำนันพงษ์ลุกขึ้นอย่างทุลักทุเล เห็นสมคิดอุ้มทิพย์เกสรไปแล้วก็มองหาดารากับเดือนเพ็ญถามว่าผู้หญิงที่มาจากกรุงเทพฯอีกคนล่ะ สั่งหาให้ทั่ว มีใคร
ติดอยู่บนเรืออีกหรือเปล่า ตัวเองก็พยายามมองหานิสา
ooooooo
ที่โรงพยาบาล สารวัตรบัญชาเดินคุยมากับสมคิดสีหน้าร้อนใจ สมคิดบอกว่านิสาตกน้ำหายไป สารวัตรบอกว่าจะให้ลูกน้องออกหาตามบ้านที่อยู่ริมน้ำดู
สารวัตรถามว่าคุณทิพย์เกสรมาทำธุระอะไรที่นี่หรือ สมคิดบอกว่ามาตามหาคุณนิราศที่หายไปสองสามวันแล้ว ตนคิดว่าคงอยู่ที่เรือนไทยของกำนันแน่ สารวัตรถามว่าทำไมถึงแน่ใจอย่างนั้น
“ก็คุณนิราศกำลังคุยอยู่กับคุณพิกุลนี่ครับ ถ้าไม่ได้อยู่เรือนไทยนั่นจะให้ไปที่ไหน”
กำนันพงษ์อยู่ที่มุมหนึ่งได้ยินทั้งหมด พอดีดารากับเดือนเพ็ญเดินมาบอกว่าไม่ชอบอยู่โรงพยาบาล ขอหมอกลับไปนอนบ้าน กำนันจึงจำต้องพาหลานสาวทั้งสองกลับไป
พอกลับถึงเรือน เดือนเพ็ญกับดาราเห็นนิสานอนหมดสติอยู่กลางเรือนก็สงสัย ลูกน้องกำนันจึงรีบมารายงานว่า ตนเห็นลอยมาติดที่ท่าน้ำก็เลยช่วยขึ้นมาก่อน ถามว่ากำนันจะให้พาไปส่งโรงพยาบาลไหม
กำนันมองนิสาหน้านิ่งอย่างมีแผนชั่วร้าย
ทิพย์เกสรตื่นขึ้นมาตอนเช้าในห้องพักฟื้นโรงพยาบาล ถามเอียดว่าตนมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง เอียดบอกว่า เรือชาวบ้านมาช่วยไว้ ถามว่าแล้วนิสาล่ะ เอียดบอกว่ายังหาตัวไม่เจอ ทิพย์เกสรก็อดใจหายไม่ได้
เช้าวันเดียวกัน นิราศนอนแน่นิ่งอยู่สีหน้าซีดเซียวเหมือนคนป่วยหนัก พิกุลเดินมาดูเห็นแมลงป่องเป็นฝูงไต่อยู่ที่หน้านิราศ เธอจ้องมัน แมลงป่องทั้งฝูงก็หนีไป
“ไปซะ...ชีวิตเขาเป็นของข้า ไม่ใช่ของพวกเจ้า...” พิกุลหยิบพัดมาพัดให้ “จะไม่มีใครพรากคุณหลวงไปจากอิฉันได้หรอกเจ้าค่ะ เพราะมีแต่ลมหายใจของคุณหลวงเท่านั้นเจ้าค่ะ ที่จะทดแทนลมหายใจของอิฉันได้”










