ตอนที่ 10
สินธรอยู่ในห้องเก็บของ คลี่ม้วนกระดาษที่เอามาจากเรือนจางวางพ่วงดูจนหมดก็ไม่เห็นเอกสารที่ต้องการ นึกสงสัยว่าตาเปรื่องอาจเข้าใจผิดไปเองว่าเหลือใบกัลปนาอีกใบอยู่ที่เจ้าของที่
สินธรออกจากห้องเก็บของ ใส่กุญแจแล้วเอาดอกกุญแจไปไว้ที่หิ้งพระซึ่งถูกทิ้งร้างกลายเป็นที่วางของ ไม่มีการดูแลจนฝุ่นเขรอะ แต่พอออกไปได้ไม่กี่ก้าวหิ้งพระก็เอียงเหมือนจะตก ข้าวของหล่นแตกกระจายเหมือนจงใจให้สินธรหันมอง สินธรจึงกลับไปเก็บของที่ตกหล่น เห็นกระบอกไม้ไผ่ปล้องหนึ่งกลิ้งไปไกลจึงไปหยิบดู เห็นบางอย่างด้านในจึงดึงออกมา
เป็นม้วนกระดาษ และเมื่อคลี่ออกดู สินธรก็แทบไม่เชื่อสายตา เป็นใบกัลปนาจริงๆ
สินธรเอาใบกัลปนาไปให้เจ้าอาวาสดู ท่านบอกว่าเคยเห็นจากเจ้าอาวาสท่านก่อน แต่มันหายไปตอนที่โจรขึ้นกุฏิปล้นฆ่าท่าน เปรื่องเสริมว่าคดีเงียบแล้วอย่างกับจะจับมือใครดมไม่ได้ เจ้าอาวาสบอกว่า ตำรวจเขาก็ทำเต็มที่แล้วอย่ากล่าวโทษใครเลย
“ถึงเอาผิดใครในคดีนั้นไม่ได้ แต่ผมจะไม่ให้เรื่องนี้เงียบหายไปอีก นี่เป็นโอกาสเดียวที่ผมจะได้ทำทุกอย่างให้สมกับความต้องการของเจ้าของเรือนที่แท้จริง”
เจ้าอาวาสบอกว่าเขาคงอนุโมทนาบุญไปกับโยมถ้าทำเรื่องนี้สำเร็จลงได้ ขณะเดียวกันที่ใกล้บริเวณนั้นมีเด็กวัดคนหนึ่งทำความสะอาดโบสถ์อยู่ ได้ยินทุกคนคุยกันหมด เด็กวัดล่อกแล่กอย่างไม่น่าไว้ใจ
ฝ่ายนิราศอยู่ที่ห้องทำงาน ลุกขึ้นคิดจะไปหาพิกุลแต่สมคิดเข้ามาเสียก่อน พูดอย่างโล่งอกว่าโชคดีที่คุณนิราศยังไม่กลับ บอกว่าคนของรัฐท่านนัดกินข้าวเย็นที่เมธาวลัย เห็นว่าจะคุยเรื่องยกเลิกประกันราคาน้ำตาล นิราศจึงจำต้องรับคำอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ฝ่ายนิสา คืนนี้นอนฝันร้ายอีก กรีดร้องจนสะดุ้งตื่น เอียดได้ยินเสียงมาเคาะประตูถามว่าเป็นอะไรหรือเปล่า นิสาบอกว่าฝันร้าย พูดอย่างเกรงใจว่าตนร้องเสียงดังจนทำให้เอียดตื่นหรือ เอียดพูดให้สบายใจว่า เราอยู่ห้องติดกันจึงได้ยิน แต่คงไม่ดังไปถึงหูคุณทิพย์หรอก
เอียดถามว่าคุณทิพย์ทำให้เครียดมากจนเก็บไปฝันหรือเปล่า นิสาบอกว่าเปล่า ตนฝันซ้ำๆแบบนี้มาแต่ไหนแต่ไรแล้ว เอียดเห็นกระปุกยานอนหลับถามว่า ถึงกับต้องกินยานอนหลับเลยหรือ บอกว่าถ้าฝันร้ายอย่างนี้ ลองไปทำบุญดู เผื่อว่าอะไรๆจะดีขึ้น นิสายิ้มรับและขอบใจ เอียดจึงกลับไป
ooooooo










