ตอนที่ 10
พิกุลเห็นเขาเปิบข้าวไม่เป็นจึงสอนให้ ทำให้นิราศซึ่งก็คือหลวงราชในอดีตระลึกถึงอดีตที่พิกุลเคยป้อนข้าวให้ พิกุลเห็นนิราศกำลังจะระลึกอดีตได้ ก็บอกให้เขากลับไปเสีย นิราศอ้อนขออยู่ที่นี่ ตนอยากตื่นขึ้นมาในเช้าวันพรุ่งนี้ที่นี่ จะให้ตนนอนที่ไหนก็ได้ ขอร้องอย่าปฏิเสธเลย
“เจ้าค่ะ” พิกุลรับคำแล้วเก็บจานเข้าครัว นิราศยิ้มดีใจ
เมื่อพิกุลยกสำรับไป เพียรถามว่ามนตร์สะกดของเอ็งทำให้เขาระลึกได้หรือ พิกุลบอกว่าตนทำได้เพียงเท่านี้รอแต่กรรมเวรจะทำให้เขาระลึกได้เท่านั้น เพียรถามว่า
“ถึงวันนั้นความเกลียดของเอ็งจะไม่เปลี่ยนเป็นรักหรือ”
“ไม่มีวันจ้ะแม่”
ooooooo
คืนนี้...นิราศไปนั่งที่ท่าน้ำอย่างมีความสุข เอ่ยกับพิกุลที่นั่งอยู่ก่อนแล้วว่าที่นี่เงียบสงบดีไม่วุ่นวายเหมือนที่กรุงเทพฯ พิกุลบอกว่าแต่อาจไม่สะดวกสำหรับคนที่มาจากกรุงเทพฯ
นิราศบอกว่าทุกอย่างที่นี่ทำให้ตนรู้สึกเหมือนได้ย้อนเวลาไปในอดีตและรู้สึกผูกพันกับที่นี่เหลือเกินพิกุลบอกว่าอาจเป็นอดีตที่ไม่น่าจดจำ นิราศบอกว่าจะดีหรือร้ายก็ขอให้ตนได้รู้เถอะ พิกุลกลับเป็นฝ่ายสะท้านเมื่อนิราศเด็ดเดี่ยวที่จะรู้เรื่องในอดีต ตัดบทว่า “อิฉันปูที่นอนให้นะเจ้าคะ” แล้วลุกไปเลย
“อดีตที่ไม่น่าจดจำ...ใครทำอะไรให้คุณหรือ?” นิราศสงสัย
เมื่อไปที่ห้องหนึ่งซึ่งพิกุลปูที่นอนกางมุ้งให้แล้ว นิราศซึ้งใจที่พิกุลดูแลตนดี แต่ยังไม่รู้จักชื่อ พิกุลบอกว่าตนชื่อพิกุล นิราศจำได้ว่าสารวัตรเล่าให้ฟังว่าพิกุลเป็นลูกสาวของเจ้าของเรือนนี้ พิกุลอยากให้เขาจำได้มากกว่านี้ แต่นิราศบอกว่าตนอยากรู้จักพิกุลที่อยู่ตรงหน้าตนมากกว่าคนที่เป็นอดีต อ้อนขอรู้จักเธอมากกว่านี้ได้ไหม พิกุลตัดบทว่า นอนเถิดเจ้าค่ะ แล้วถือตะเกียงออกไป
พิกุลเดินไปถึงประตู หันกลับมองนิราศทั้งดีใจที่เขากลับมาและปวดใจเมื่อนึกถึงอดีต เตือนใจตัวเองว่า
“ขอให้อิฉันใจแข็งพอที่จะเห็นคุณหลวงชดใช้กรรมที่คุณหลวงทำกับอิฉันด้วยเถิดหรือหากอิฉันต้องมอดไหม้ด้วยความอาฆาตเสียตอนนี้ ก็ยังดีเสียกว่าต้องทรมานด้วยความรักความปรารถนาที่คุณหลวงมีให้อิฉันในวันนี้”
ooooooo










