ตอนที่ 10
พิกุลสะเทือนใจที่นิราศตอบสนองความแค้นของตนด้วยความรักและห่วงใย...เธอเริ่มใจอ่อน...
เลือดที่หน้าผากนิราศยังซึมอยู่ เขาอ้อนว่าถ้าตนเลือดไหลหมดตัวเธอจะทำอย่างไร พิกุลบอกว่าตนไม่ยอมให้เขาตายตอนนี้หรอก
“ถ้าผมต้องตายคงไม่ใช่เพราะแผลนี้แต่ผมจะตายเพราะ...ความปรารถนาที่มีต่อคุณต่างหาก”
นิราศดึงมือพิกุลไปหอมอย่างหลงใหล พิกุลโอนอ่อนไม่ขัดขืน เขามองอย่างปรารถนา โน้มหน้าจูบที่ไหล่ รำพึงเคลิ้ม “กลิ่นกายหอมละมุนของคุณ เนื้อตัวของคุณ...ผมรู้สึกคุ้นเคยเหลือเกิน”
บรรยากาศและอารมณ์ในคืนนี้ช่างเหมือนกับคืนนั้น...คืนที่พิกุลไม่มีวันลืมเหลือเกิน แต่วันนี้พิกุลไม่ได้เคลิ้มอย่างคืนนั้น สีหน้าเธอเย็นชา สายตามองไปที่มุมห้อง ทันใดก็เห็นงูเห่าตัวหนึ่งแผ่แม่เบี้ยและค่อยๆเลื้อยเข้ามาพร้อมจะฉก!
พิกุลจ้องงูเห่าตัวนั้นที่พร้อมจะพุ่งมาฉก ในขณะที่นิราศอยู่ในภวังค์รัก ปรารถนา พึมพำแผ่วอ้อน...
“พิกุล...ผมรักคุณ”
ในที่สุดพิกุลก็พ่ายต่อความรักความหวังดีของนิราศ เธอโอนอ่อนตามใจปรารถนา...
ดึกคืนนี้นิราศหลับสนิท ในขณะที่พิกุลนั่งโบกพัดไล่ยุงให้ด้วยสีหน้าเรียบเฉย ทั้งสุขที่ได้ทำให้คนรักและทุกข์ที่ไม่อาจข่มความอ่อนแอของตัวเองได้
นิราศลืมตาขึ้นเห็นพิกุลร้องไห้ เขาดึงเธอเข้าไปกอดถามว่าร้องไห้เพราะตนหรือ ตนจะปฏิเสธความรับผิดชอบไม่ได้ จากนี้ไปขอให้ตนได้ดูแลเธอเถิด พิกุลอบอุ่นในอ้อมกอดถามว่าดูแลรับผิดชอบชีวิตตนหรือ
“มันอาจจะช้าเกินไปที่ผมพูดคำนี้ แต่ผมไม่ทรยศคำพูดของตัวเอง ให้ผมเป็นคนดูแลคุณเถอะนะ”
พิกุลไม่ตอบ บอกให้เขานอนเถิด นิราศรบเร้าขอคำตอบก่อน
“อิฉันก็จะตอบในวันหนึ่งเจ้าค่ะ นอนนะเจ้าคะ พิกุลจะดูแลคุณเอง”
นิราศจึงนอนมองพิกุลที่นั่งโบกพัดไล่ยุงให้อย่างหลงใหล
จนเช้า นิราศตื่นขึ้นมาไม่เห็นพิกุล เขาตกใจลุกตามจึงเห็นพัดกับเครื่องอาบน้ำและเสื้อผ้าวางอยู่ก็คลายกังวล ครู่หนึ่งได้ยินเสียงปี่แว่วมาจากท่าน้ำ เขามองผ่านหน้าต่าง เห็นพิกุลนั่งเป่าปี่อยู่
นิราศยิ้มออก หยิบเสื้อผ้าออกไปทันที...
ooooooo










