ตอนที่ 15
น้ำหวานปัดเรื่องหาญทิ้งและเดินหน้าตามหน้าที่ความรับผิดชอบของตนคือคุณหมอคนใหม่ประจำสุขศาลาบ้านโคกโดยมีน้ำแข็งคอยช่วยตามประสาพยาบาลคู่ใจ
หาญคิดถึงน้ำหวานและอยากตามง้องอนแต่ภาระหน้าที่สำคัญกว่าเลยค้นหาแฟ้มเก่าคดีเสือชงจนเจอและนำไปให้หินถึงที่ว่าการอำเภอกลางดึกของคืนเดียวกัน
หินเห็นเพื่อนรักปีนหน้าต่างมาก็อดแซวไม่ได้ “นี่แกยังคิดว่าแกเป็นเสือหาญอีกหรือ ประตูมีทำไมไม่เข้า”
“ข้างล่างมีภารโรงเฝ้าอยู่ฉันไม่ไว้ใจใคร ฉันเอาแฟ้มคดีของเสือชงมาให้แก”
“แฟ้มคดีเสือชง...ฉันเคยไปขอดูกับหมวดรำพึง ยังอยู่อีกหรือนี่”
“ค้นกันทั้งคืนในสถานี ระบบการเก็บเอกสารแบบเก่าๆคือใส่ตู้วางซ้อนๆกัน โชคดีที่มันยังอยู่มาถึงยี่สิบกว่าปี เป็นเพราะเจ้าหน้าที่ธุรการไม่ใส่ใจ”
“เราเหลือเวลาจับเสือชงอีกเท่าไหร่...”
หาญกับหินช่วยกันคิดเรื่องรื้อคดีเสือชงเพราะอีกไม่กี่วันจะหมดอายุความ ไม่รู้เลยว่าดนัยแอบตามสอดแนมไม่ห่างและกลับไปบอกความเคลื่อนไหวกับเสี่ยภุชงค์เวลาต่อมา
“ผมไปดูทางหนีทีไล่ นายอำเภอหินระวังตัวแจจนแทบจะกินจะนอนบนอำเภอกับผู้กองหาญ”
เสี่ยภุชงค์รู้ดีว่าพวกชาวบ้านโคกจะจัดงานเลี้ยงต้อนรับหินกับหาญในฐานะนายอำเภอและผู้กองคนใหม่เลยคิดฆ่าปิดปากกลางงานแต่หมวดรำพึงไม่เห็นด้วยเพราะเชื่อว่าสองหนุ่มคงมีแผนรับมือและคุ้มกันชาวบ้านอย่างดี
ดนัยไม่คิดเช่นนั้นเพราะฝ่ายเสี่ยภุชงค์มีกำลังคนไม่น้อย “คนของเสี่ยมีอาวุธครบมือ ถึงตอนนี้ใครจะตายก็ช่าง ขอให้นายอำเภอหินกับผู้กองหาญเป็นสองคนในจำนวนนั้น”
หมวดรำพึงจะค้านแต่เสี่ยภุชงค์ก็ตัดบท
“งั้นก็ทำตามแผน เราเหลือเวลาไม่เกินสองวันก่อนคดีหมดอายุความ เวลาสองวันเราต้องเก็บสองคนนั่นให้ได้!”
ooooooo
แผนของเสี่ยภุชงค์ก่อนฆ่าหินกับหาญกลางงานเลี้ยงของพวกชาวบ้านคือกบดานเงียบที่สุด หาญนำกำลังตำรวจไปทลายโกดังสะสมอาวุธของเสี่ยภุชงค์แต่ไม่พบใครแม้แต่คนเดียว
หาญหนักใจมากรีบนำข่าวไปบอกหินให้ระวังตัวและเตรียมพร้อม
“เราเหลือเวลาแค่อีกวันเดียว ถ้าปฏิบัติการของเราล้มเหลว เสี่ยภุชงค์จะรอดจากคดีเก่าเพราะหมดอายุความ”
“ตอนนี้เสี่ยภุชงค์มีทั้งปลัดดนัย มีทั้งหมวดรำพึงเป็นกำลังสำคัญ มันต้องซ่อนตัวอยู่ที่ไหนสักแห่งในบ้านโคกนี่แหละ มันมีกำลังพอจะต่อสู้กับทางบ้านเมือง เราจะประมาทพวกมันไม่ได้”
“คนชั่ว...ถึงมันมีปีกหางมันก็ต้องถูกเด็ดปีก เรามีหูตาพวกชาวบ้านช่วยสอดส่องหาเบาะแสให้ ฉันให้ไอ้ดินกับไอ้ดำส่งข่าวหาสายของเราให้คอยจับตาดูพวกเสี่ยภุชงค์เพราะป่านนี้มันคงรู้แล้วว่าผู้กองคนใหม่เป็นใคร!”










