ตอนที่ 12
หินกับหาญเอาตัวรอดได้ในที่สุด เสี่ยภุชงค์ยังไม่รู้เรื่อง มัวเรียกตัวอดีตสมุนสมัยเป็นเสือชงมาคุยธุระสำคัญเกี่ยวกับปืนกระบอกเก่าที่เขาเก็บรักษาอย่างดี
ในห้องนอนที่คฤหาสน์
“ปืนกระบอกนี้เคยกินเลือดคนมาเยอะ...ทั้งผู้ชายผู้หญิงไม่เว้นแม้แต่เด็ก!”
สีหน้าเสี่ยภุชงค์เลือดเย็นจนเหล่าอดีตสมุน
อดขนลุกไม่ได้
“ในอดีตชื่อของเสือชงเป็นที่ครั่นคร้าม ขนาดเด็กร้องไห้อยู่พอได้ยินชื่อเสือชงก็เงียบเป็นปลิดทิ้ง แต่ตอนนี้ฉันถูกเด็กปากยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมอย่างไอ้หิน
ไอ้หาญลูบคมทุกวัน!”
หนึ่งในอดีตสมุนโพล่งขึ้น “แต่ตอนนี้ไอ้หินกับไอ้หาญก็กลายเป็นเสือปล้นไปแล้ว”
“ไอ้หินมันรู้ว่าฉันเป็นใคร มันรู้ว่าพวกแกอดีตเคยเป็นเสือปล้นในก๊กเสือชง”
อดีตสมุนโจรทั้งสามสีหน้าเข้มขึ้น ก่อนเปลี่ยนเป็นยิ้มเย็นเมื่อได้ยินคำสั่งของเสี่ยภุชงค์
“ทางที่จะทำให้ความลับของเราเป็นความลับ
ต่อไปก็คือ...ทำให้มันพูดไม่ได้!”
เสี่ยภุชงค์แสยะยิ้มเมื่อคิดถึงแผนการของตน กำชับเหล่าอดีตสมุนทิ้งท้าย
“ฆ่าปิดปากมันให้ได้ก่อนที่คดีปล้นฆ่าของพวกเราจะถูกเปิดเผยออกมา”
ooooooo
สีดาแอบได้ยินเรื่องราวของเสี่ยภุชงค์สมัยเป็นเสือชงโดยบังเอิญ ตัดสินใจจะหนีเพราะกลัวตายและกลัวเขารู้เรื่องเธอยักยอกเงินบางส่วนและมีใจให้หินจนส่งข่าวให้เสมอ
พวกเปรียวไม่สนเรื่องสีดา วุ่นวายกับพวกชาวบ้านที่นำอาวุธมาคืนที่วัดเพราะไม่อยากงัดข้อกับเสี่ยภุชงค์ กลัวต้องตายอย่างอนาถเหมือนขบวนข้าราชการชั้นผู้ใหญ่จากกรุงเทพฯ
“เดี๋ยวก่อน...นี่เชื่อกันจริงๆหรือว่าพี่หินกับพี่หาญเขาเป็นเสือปล้น”
“ไม่มีใครเชื่อหรอก คนเขารู้กันทั้งบ้านโคกว่าพี่หินกับพี่หาญถูกหมวดรำพึงกับปลัดดนัยใส่ความ”
ชื่อของดนัยทำให้เปรียวของขึ้น ตั้งท่าไปเอาเรื่อง น้ำหวานรั้งตัวไว้
“เข้าทางของพวกมันเลย พวกมันก็จะจับเปรียวส่งให้หมวดรำพึง จากนั้นก็ไม่มีใครได้พบเปรียวอีกเลย”
เปรียวหน้าเสีย เป็นห่วงหินจับใจ น้ำหวานต้องปลอบให้ใจเย็นๆ
“อย่าใช้อารมณ์เพราะตอนนี้คนที่หิน ท่าลาด กับหาญ บ้านโคก...หวังพึ่งก็มีแต่พวกเรา”
หินกับหาญไม่ได้รับรู้เรื่องนอกป่าละเมาะ ตระเวนหาอาหารและเสบียงสำหรับกินนอนในถ้ำ หาญขุดหน่อไม้ป่ามากมาย หินเห็นแล้วส่ายหน้าเซ็งๆ
“เราคงไม่อยู่นานขนาดนั้นหรอก”
“เราต้องรอไอ้ดำไอ้ดินติดต่อมา สองคนนั่นรู้ว่าเราอยู่ที่ไหน ถ้ำนี่เราเล่นซ่อนหากันตอนเป็นเด็กแกจำไม่ได้หรือ”










