ตอนที่ 8
ด้วยความรักความเมตตาที่ย่าพุดปฏิบัติต่อปริม ทำให้ปริมสะเทือนใจถามว่าทำไมย่าทำได้ ตนไม่เคยคิดที่จะทำอะไรเพื่อคนอื่นอย่างย่าเลย ปริมร้องไห้คร่ำครวญว่าตอนนี้ตนไม่เหลือใครเลย ย่าพุดบอกว่ายังมีย่าไม่ใช่หรือและยังมีคนรอบข้างที่ห่วงปริมอยู่
วันนี้ปริมนั่งกระสับกระส่ายอยู่ที่โซฟา พิมกับแก้วตาสงสัยว่าเธอเป็นอะไรจึงแอบดู ครู่หนึ่งเพชรเดินเข้าไปในห้องรับแขก ปริมตามเข้าไป
ปริมถามเพชรว่าทำไมดีกับตนอย่างนี้ เพชรบอกว่าเพราะเราเป็นเพื่อนกัน เพื่อนย่อมไม่ทิ้งเพื่อน ปริมถามว่าเพชรรู้ใช่ไหมว่าตนคิดอย่างไรกับเขา รู้สึกบ้างไหมว่าท่าทีที่ดีกับตนอย่างมากนี้เป็นการฆ่าตนอย่างเลือดเย็น เพชรตกใจและรู้สึกผิดรีบขอโทษที่ตนไม่เคยคิดถึงความรู้สึกของเธอเลย พูดซื่อๆจริงใจว่า
“ผมแค่อยากช่วย อยากให้คุณรู้ว่าต่อให้ชีวิตของเรามันจะย่ำแย่เลวร้ายสักแค่ไหน ขอแค่เรายังมีเพื่อน ยังมีคนที่รัก หวังดีและจริงใจอยู่ข้างๆ มันก็จะทำให้ความเลวร้ายทุกอย่างผ่านพ้นไปด้วยดี ผมมัวแต่คิดแบบนี้แต่ไม่เคยคิดถึงความรู้สึกอีกด้านนึงของคุณเลย ผมขอโทษครับ ขอโทษจากใจจริง”
“คุณไม่ต้องมาขอโทษปริม เพราะสำหรับคุณปริมเป็นได้แค่เพื่อนที่คุณมีให้แค่ความหวังดี แต่คุณต้องไปขอโทษคุณรินทร์ คนที่เขาก็ต้องเจ็บปวดจากความหวังดีของคุณเหมือนกัน”
แก้วตากับพิมฟังแล้วตกใจมองหน้ากัน เห็นปริมยังจ้องหน้าเพชรนิ่ง พูดอย่างเยือกเย็นว่า
“รินทร์เป็นคนดี ดีอย่างที่ปริมไม่มีทางเป็นได้ อย่าให้ใครต้องเจ็บแบบปริมอีกเลย โดยเฉพาะรินทร์”
ปริมพูดแล้วเดินออกมาเจอแก้วตากับพิมที่แอบฟังอยู่ ทั้งสองหน้าเจื่อน พิมขอโทษปริม แต่ปริมบอกว่า
“พี่ต่างหากที่ต้องขอโทษพิม เธอด้วยแก้วตา สำหรับทุกอย่างที่ฉันทำ”
แก้วตาพูดอะไรไม่ออก ดึงปริมเข้าไปกอด พิมตกใจ แต่แล้วก็ยิ้มออกเมื่อปริมกอดตอบ
ooooooo
คืนนี้เอง เพชรบอกรินทร์ว่ามีเรื่องสำคัญต้องทำ ให้ไปด้วยกันเดี๋ยวนี้เลย แต่ถ้าไม่สะดวกตนไปคนเดียวก็ได้ รินทร์บอกไม่ได้ เราเป็นหุ้นส่วนกันไปไหนก็ต้องไปด้วยกัน เพชรเร่งให้ไปกันเลยกว่าจะถึงก็คงเช้าพอดี
แต่เช้ามืดวันรุ่งขึ้น พิมเห็นปริมถือกระเป๋าเดินทางใบเล็กผ่านห้องรับแขกไปหงอยๆ แล้วปริมก็สะดุ้งเมื่อเห็นย่าพุด ไกรสร พิม แก้วตาและชาญวิทย์นั่งรออยู่ พิมตัดพ้อปริมว่า
“ทำไมพี่ปริมจะหนีไปโดยไม่บอกพวกเราล่ะคะ”
“พี่...ปริมขอโทษนะคะ แต่ปริมไม่กล้า ปริมไม่ได้อยากจากที่นี่ แต่ยิ่งอยู่มันยิ่งเจ็บปวด ปริม...” พูดได้แค่นั้นก็ร้องไห้จนพูดไม่ออก ย่าพุดเข้าไปกอดปลอบว่า
“ย่ารู้...คุณเก่งแล้วที่กล้าก้าวออกไป ไม่ร้องแล้วนะลูก ไม่ร้อง”










