ตอนที่ 8
คืนเดียวกัน เอไปหาเพชรที่อู่ เพชรถามว่ามีอะไรหรือเปล่า เอบอกว่าตอนนี้ยังไม่มี แต่ถ้าพรุ่งนี้มีอะไรเกิดขึ้นเอ็งไม่ต้องห่วงพี่นะ เพชรกังวลใจถามว่าพี่เอจะทำอะไร เอยิ้มกอดเพชรบอกว่า
“เอ็งไม่ต้องห่วง ขอแค่ส่งกำลังใจให้พี่เข้มแข็งแบบเอ็งก็แล้วกัน โชคดีนะไอ้น้องชาย...โชคดี”
เอคลายกอดตบหัวเพชรอย่างเอ็นดูแล้วเดินขึ้นรถตัวเองขับออกไป เพชรได้แต่มองอย่างกังวลใจ
ออกจากเพชรแล้ว เอไปหาชาญวิทย์ตามนัดมีเอกสารซองใหญ่ไปให้ ชาญวิทย์ถามว่าแน่ใจหรือว่าจะทำเรื่องนี้ เอหัวเราะตอบอย่างสบายใจหนักแน่นว่า
“แน่ใจสิครับหมวด หรือหมวดไม่อยากกวาดล้างเรื่องเลวร้ายพวกนี้ให้หมดไปจากพื้นที่ของหมวด” ชาญวิทย์บอกว่าอยากทำ ถ้าไม่เสี่ยงกับชีวิตของใคร “ก็ถ้าชีวิตของผมมันจะทำให้บ้านที่ผมเกิดมาสะอาดและน่าอยู่มากขึ้น ผมยินดี”
ชาญวิทย์มองหน้าเอเต็มตา พยักหน้า บอกเอว่าในฐานะผู้รักษากฎหมายตนคงพูดอะไรมากไม่ได้กับสิ่งที่เอทำมาทั้งหมด แต่ในฐานะเพื่อน ตนดีใจที่เอเลือกทางเดินใหม่อีกครั้ง ยืนยันกับเอว่า
“ผมจะพยายามหาทางทำให้คุณปลอดภัยให้มากที่สุด”
“ขอบคุณครับหมวด...ขอบคุณเพื่อน” เอยิ้มสบายใจ โล่งใจแล้วจับมือกันแน่น
เพชรกับรินทร์ที่เป็นหุ้นส่วนกันมุมานะทำงานหามรุ่งหามค่ำ ช่วยกันออกตระเวนหาบริษัทสินค้ามาวางขายที่อู่ แต่ก็ต้องผิดหวังครั้งแล้วครั้งเล่า รินทร์ปรารภกับเพชรอย่างท้อใจว่าไม่มีบริษัทไหนสนใจเอาสินค้าไปวางขายที่ศูนย์ของเราเลย เพชรบอกอย่าเพิ่งยอมแพ้ วันนี้อาจจะยังไม่มีแต่เราต้องเชื่อมั่นว่าจะต้องมีคนมองเห็นและเข้าใจสิ่งที่เราตั้งใจทำ
ความเข้มแข็งแน่วแน่ของเพชรทำให้รินทร์มีกำลังใจขึ้น แต่ลึกๆแล้วก็ยังกังวลและไม่พอใจพนักงานบางบริษัทที่มีท่าทีดูแคลนที่อู่ซ่อมรถสกปรกจะเอาสินค้าราคาแพงของตนไปวางขาย เล่าให้ไกรสรฟัง ถามว่าแบบนี้ลุงจะโกรธไหม ไกรสรบอกว่าโกรธ แต่ขยี้หัวรินทร์หยอกว่า “เอ็งไม่น่าจะเป็นคนใจร้อนแบบนี้นี่หว่า นังร้าย” แล้วหันไปถามเพชรว่าไม่โกรธจริงหรือ
“ไม่ครับ คำพูดแค่นี้จากคนที่ไม่รู้จักเพชร ทำอะไรเพชรไม่ได้หรอกครับพ่อ...”
เพชรเล่าว่าบริษัทผู้ผลิตและเป็นตัวแทนจำหน่ายไม่ได้มีแค่บริษัทเดียว ตนจะเข้าไปทุกที่ ทำให้เขาเห็นว่าจุดมุ่งหมายธุรกิจของเราคืออะไร สร้างความมั่นใจให้กับการบริการของเรา พูดแล้วถามรินทร์ว่ายังไหวอยู่ไหม รินทร์บอกว่าไหวและต่อไปตนก็จะพยายามใจเย็นกว่านี้
ขณะกำลังคุยกันอยู่นั่นเอง ปริมก็ร้องเข้ามาอย่างขวัญเสียว่า “ช่วยด้วย ช่วยคุณพ่อปริมด้วย” ทุกคนดูหนังสือพิมพ์ที่ปริมถือเข้ามาพาดหัวข่าวกรอบรองว่า “เสี่ยนักฟอกเงินดับสยองคาเรือนจำ”










