ตอนที่ 3
ที่ทางเปลี่ยว...พวกพันหาญเดินเอะอะเมาแอ๋กันมา จู่ๆก็ถูกพวกขุนแผลงฤทธิ์ที่ซ่อนอยู่จู่โจมเข้าทำร้ายจนล้มกลิ้ง พลันก็มีเสียงร้องอย่างหวาดกลัว ขุนแผลงฤทธิ์ชะงักเมื่อเห็นหน้าพวกนั้นชัดๆ เอาดาบชี้หน้าถาม
“ไม่ใช่อ้ายหาญรึ”
คนหนึ่งบอกว่าตนชื่อชื่น กลับจากเที่ยวที่โรงรับชำเรา มีคนเลี้ยงพวกตนแล้วให้ออกมารอที่สวนผลไม้ตรงหัวโค้ง พอพวกนั้นออกมาก็เปลี่ยนเสื้อผ้ากับพวกตนแล้วให้พวกตนเดินมาทางนี้ ขุนแผลงฤทธิ์จึงรู้ว่าหลงกลแล้ว จึงย้อนกลับไปตามล่าพันหาญกับพวกทันที
ขุนแผลงฤทธิ์ตามมาทัน พันหาญจึงสู้เปิดทางให้ลูกน้องแยกกันหนีจนถึงสะพานข้ามคลอง แต่เพราะพวกขุนแผลงฤทธิ์มีมากกว่าและการต่อสู้มีวิชาจึงเข้าล้อมพวกพันหาญไว้ พันหาญถูกขุนแผลงฤทธิ์ฟันที่ขาจนทรุดและเข้าเตะต่อยซ้ำจนเลือดกบปากนอนแน่นิ่งอยู่กลางสะพาน
ขุนแผลงฤทธิ์จะเข้าจับเป็นเพื่อหาตัวผู้บงการ พลันก็มีไม้ไผ่ลำหนึ่งพุ่งเข้าใส่จนขุนแผลงฤทธิ์ต้องถอยจากสะพานเพื่อตั้งหลัก เห็นชายคนหนึ่งโพกผ้าปิดบังใบหน้าเดินขึ้นสะพานมาจากอีกฟากหนึ่ง พันหาญอุทาน
“พ่อขันทอง”
ขันทองยืมดาบจากพันหาญเข้าสู้กับขุนแผลงฤทธิ์ ขุนแผลงฤทธิ์มีประสบการณ์เหนือกว่าแกล้งทำเป็นเสียเปรียบ ขันทองหลงกลบุกเข้าไปถูกฟันที่ไหล่ขวา จึงเปลี่ยนดาบมามือซ้ายบุกสวนสู้กับขุนแผลงฤทธิ์ จนฟันเข้าที่หัวไหล่ขุนแผลงฤทธิ์เช่นกัน ขุนแผลงฤทธิ์บาดเจ็บ ตะโกนสั่งลูกน้อง “รุมมัน ฆ่ามันให้จงได้”
พันหาญเห็นขันทองถูกรุมจึงพยายามลุกไปช่วย ขุนแผลงฤทธิ์ลำพองใจตะโกนให้ฆ่าตายเสียทั้งคู่เลย พลันก็มีเสียงชายคนหนึ่งขัดขึ้นอย่างห้าวหาญว่า
“ก็ไม่แน่นักดอก”
เขาคือหลวงพิชัยอาสาในวัย 22-23 ปี ดูล่ำสันแข็งแรง ควงดาบคู่ฟันใส่ลูกน้องขุนแผลงฤทธิ์ บ้างล้มตายที่เหลือตกใจกับฝีมือเพลงดาบจนถูกฟันล้มตายเป็นใบไม้ร่วง ขันทองทึ่งกับเพลงดาบที่ไม่เคยเห็นมาก่อน
“หลวงพิชัยอาสา” พันหาญจำได้ ขันทองถามว่าน้าพันหาญรู้จักรึ แต่พันหาญไม่ทันตอบก็มีเสียงชายคนหนึ่งดังขึ้นจากด้านหลังอย่างเยือกเย็นว่า
“ถ้าจำไม่ผิด เราเคยพบกันอยู่สองสามครา ใช่หรือไม่หัวพัน”
“ท่านเจ้าคุณ” พันหาญอุทานอย่างคิดไม่ถึง
ที่แท้ท่านผู้นี้คือ พระยาตากนั่นเอง! พระยาตากมองขันทองบอกว่า
“เจ้าไม่รู้จักเพลงดาบของหลวงพิชัยก็มิแปลก ด้วยหลวงพิชัยอาสาผู้นี้ร่ำเรียนทั้งมวยไทย มวยจีน แลยังเอาวิชาทั้งสองมาประยุกต์รวมกันเป็นทางมวยจำเพาะตัว รวมไปถึงวิชาดาบอีกด้วย ดั่งตำนานที่ว่าดาบคือมวย มวยก็คือดาบ เพลงดาบของหลวงพิชัยจึงเป็นเพลงดาบที่เป็นเอกเทศไม่เหมือนผู้ใด”
ขุนแผลงฤทธิ์เห็นลูกน้องล้มตายมากจึงกัดฟันบุกเข้าใส่หลวงพิชัย ถูกหลวงพิชัยฟันเข้าที่ลำตัวแต่หลบทันจึงถูกปลายดาบเป็นแผลที่หน้าอก
“หนี หนีเร็ว” ขุนแผลงฤทธิ์เริ่มกลัวตะโกนสั่ง ลูกน้องที่เหลือพากันหนีกระเซอะกระเซิงไป
ooooooo










