ตอนที่ 3
แมงเม่าบอกว่าตนแก้กลบทไม่ออกเลยมาเดินเล่นแลเห็นสระใหญ่อยู่ก็เลยนั่งคิดต่อ แลปาก้อนหินลงสระไปเล่นๆ มิได้มีเจตนาให้ผู้ใดหวาดกลัว
ขันทองดุว่าที่นี่ไม่ใช่เรือนของเจ้าที่จะออกมาเดินทอดน่องตามใจชอบดึกดื่น พระยากำแหงต้องตาความงามน่ารักของแมงเม่า ช่วยแก้ให้ว่าแม่หญิงผู้นี้ไม่รู้กฎระเบียบในวังอย่าดุเลย แล้วหันไปยิ้มบอกแมงเม่า
“แต่ต่อไปเจ้าก็อย่าทำเช่นนี้อีก หากไปเจอพวกทหารยามเข้าจะถูกลงโทษเอา”
“ไม่กล้าแล้วเจ้าค่ะท่านเจ้าคุณ” แล้วหันมองขันทองหน้าง้ำพูดเหน็บ “โดนดุด่าราวกับไปฆ่าใครตาย ฉันเข็ดแล้วล่ะเจ้าค่ะ” ขันทองถามว่าก็แล้วมันควรโดนดุหรือไม่เล่า “ไม่ควรเจ้าค่ะ ท่านเจ้าคุณยังพูดกับฉันดีๆเลย คุณหลวงก็ควรจะพูดกับฉันดีๆบ้าง ฉันทำไปเพราะไม่รู้ นะเจ้าคะ จะโกรธเคืองกระไรนักหนา...พ่อปันหยีเอ๊ย...”
แมงเม่าเรียกล้อขันทองจนพระยากำแหงถึงกับกลั้นขำไม่อยู่ แมงเม่าเห็นพระยากำแหงขำก็พลอยขำไปด้วย ขันทองถลึงตาไม่พอใจแต่พูดไม่ออก พระยากำแหงกลั้นขำบอกว่า
“ไม่มีกระไรแล้ว เจ้ากลับเรือนคุณท้าวโสภาเถิด เอ่อ...แลหากอยากเดินเล่นเช่นนี้ก็บอกฉันได้ ฉันจะเดินเป็นเพื่อน จะได้ไม่วุ่นวายเช่นนี้อีก”
แมงเม่าไหว้ขอบพระคุณแล้วเดินเลี่ยงไป ขันทองเดินตามไป พระยากำแหงมองตามด้วยแววตากรุ้มกริ่มที่แมงเม่าไม่เพียงแต่สวย น่ารัก หากยังมีชีวิตชีวาอย่างที่ตนไม่เคยเจอมาก่อนด้วย...
ระหว่างเดินกลับเรือนคุณท้าวโสภา ขันทองเดินลิ่วไม่รอ แมงเม่าตัดพ้อว่าเดินมืดๆแบบนี้ตนล้มหัวร้างข้างแตกไปคุณหลวงจะ...
ขันทองหยุดกะทันหันแมงเม่าเลยชนเข้าอย่างจังบ่น “อุ๊ย...หยุดก็ไม่บอก”
“ฉันไม่เคยพบเคยเห็นหญิงใดเจื้อยแจ้วช่างจำนรรจาอย่างเจ้ามาก่อน ฉันสงสัยนักว่าถ้าเจ้าเลิกพูดแล้วตามมาเงียบๆจะอกแตกตายหรือกระไร” แมงเม่าขำกิ๊ก เลยโดนดุซ้ำ “ฉันไม่ได้พูดให้เห็นเป็นเรื่องขำ เจ้าจะหัวเราะทำกระไร”
แมงเม่าเปลี่ยนเป็นยิ้มบอกว่ากลัวคุณหลวงโกรธ เอ่ยยอกย้อนล้อเลียนว่า “ฉันก็ไม่เคยพบเห็นผู้ใดโกรธเคืองได้น่าเอ็นดูเท่าคุณหลวงมาก่อนเลยเจ้าค่ะ”
“ยังจะมาย้อนอีกรึ ฉันโกรธก็เพราะสิ่งที่เจ้าทำน่ะแหละ”
“แต่ฉันว่าคุณหลวงไม่ได้โกรธฉันจริงดอกเจ้าค่ะ มิเช่นนั้นก็คงปล่อยให้ฉันเดินกลับมาเอง ไม่ตามมาส่งฉันถึงเรือนคุณท้าวโสภาดอก”
แมงเม่าเอาดอกไม้จากชายพกดอกหนึ่งให้ขันทองบอกว่ามันขึ้นอยู่ริมอ่างแก้วเลยเด็ดมา กะว่าพรุ่งนี้จะดูว่าดอกกระไรแต่เปลี่ยนใจให้คุณหลวงแทน ถือว่าแทนคำขอขมา แล้วไหว้ลาเลย
ขันทองมองตามแมงเม่าที่วิ่งเข้าเรือนไป หัวใจเริ่มหวั่นไหวเมื่ออยู่ใกล้แมงเม่ามากขึ้นทุกที...ทุกที...
ooooooo
เมื่อแมงเม่าวิ่งเข้าเรือนแล้ว ขันทองเดินกลับมาจนถึงบริเวณทางระบายน้ำที่ตนใช้แอบออกจากวังด้วยหัวใจว้าวุ่น มองดอกไม้และนึกถึงสัมผัสที่แมงเม่าจับมือเอาดอกไม้ให้แล้วหัวใจก็เต้นไม่เป็นส่ำ...
ขันทองเก็บดอกไม้ไว้ในอกเสื้อ สูดลมหายใจลึกๆแรงๆ พยายามตั้งสติเตือนใจตัวเองว่า
“จำไว้ขันทอง เจ้าเป็นจารบุรุษ หน้าที่ของเจ้าคือความลับแลล้างแค้นให้พ่อกับแม่ อย่าคิดเรื่องอื่นใดทั้งสิ้น”
เมื่อตั้งสติได้แล้วสีหน้าขันทองกลับสู่ความสงบ เย็นชา ก่อนที่จะลงไปในทางระบายน้ำเพื่อออกจากวังอีกครั้ง
ooooooo










