ตอนที่ 3
ออกพระราชาข่านไม่พอใจบอกขันทองว่า ทำตามที่พูดก็แล้วกัน ถ้าดีแต่ปากระวังคอบนบ่าไว้เถิด พูดเสร็จเห็นเยื้อนฟังอยู่ก็ตกใจเดินกระแทกเท้าลงเรือนไป ขันทองถามแน่นว่าเรื่องที่ตนให้ไปจัดการ เรียบร้อยไหม แน่นบอกว่าเรียบร้อยแค่สับเปลี่ยนให้ขันทองออกไปซื้อของที่นอกวังและสืบหาหลักฐานจากลูกสาวเศรษฐีมิ่ง
ขันทองมั่นใจว่า การที่พระยาพลเทพจะฆ่าพันหาญปิดปาก เพราะเป็นลูกน้องเก่าของพ่อก็มิพักต้องสงสัยว่าต้องเกี่ยวกับการตายของพ่อแน่นอน และคงไม่ต้องตีความอะไรอีกว่าไส้ศึกของอังวะในศึกอลองพญาเป็นใคร และของที่พระยาพลเทพอยากได้นักหนาจากแมงเม่าก็ไม่พ้นต้องเกี่ยวกับเรื่องนี้อีกเช่นกัน
แน่นติงว่าวิสัยหญิงจะเก็บสิ่งที่ตนไม่ต้องการไว้หรือ ยิ่งรู้ว่าจะเป็นภัยแก่ตนก็น่าจะทิ้งไปเสียนานแล้ว
“ไม่ดอก เจ้าแมงเม่าไม่เหมือนหญิงอื่นใดที่ข้าเคยพบ ถ้าไม่รู้ว่าของที่ตนได้ไปคือกระไร เจ้าแมงเม่าไม่มีทางทิ้งไปเป็นอันขาด” ขันทองมั่นใจ
ooooooo
ฝ่ายพระยากำแหง วันนี้เอารางวัลของกรมขุนวิมลและบรรดาเจ้าจอมที่อยู่ในฝ่ายเดียวกันไปมอบให้แมงเม่าที่เรือน
เศรษฐีมิ่งตื่นเต้นดีใจมากที่ไพร่อย่างตนมีพระยามาเยือนถึงเรือน ซ้ำพูดเป็นนัยฝากตัวเป็นเขยด้วย มิ่งถึงกับเพ้อว่าถ้าแมงเม่าออกเรือนไปคงไม่แคล้วได้เป็นคุณหญิงที่สาวที่สุดในอโยธยา
ฝ่ายแมงเม่าก็ยิ้มแย้มแจ่มใสจนทุกคนคิดว่ามีใจให้พระยากำแหงเช่นกัน แต่ที่แท้แมงเม่าอึดอัดกังวลที่พูดดีด้วยเพราะท่านดีกับตนก่อน
แต่แมงเม่าก็อารมณ์ดีขึ้นมาทันทีเมื่อขันทองที่ไปซื้อของเสร็จแล้วพายเรือมาที่เรือนมิ่งเพราะยังไม่อยากกลับวัง แมงเม่าเห็นขันทองใส่ชุดชาวบ้านและยังใส่งอบก็ถึงกับขำกิ๊ก...
แมงเม่าลงเรือที่ขันทองพายไปในคลองที่เงียบสงบ พลางเล่าว่าตนไม่ได้ผ่านคลองนี้มานานแล้วนับแต่ถูกดักทำร้ายคราวก่อน ดีแต่ว่ามีคนมาช่วยไว้เลยรอดมาได้ ตนอยากจะลากคอพวกมันไปตีตรวนแต่มีเหตุสำคัญบางอย่างทำให้จำต้องนิ่งเสียเพราะไม่ได้เกี่ยวกับชีวิตตนคนเดียว แต่อาจรวมถึงชีวิตของตระกูลตนทั้งหมดก็เป็นได้
ขณะแมงเม่ากำลังจะเล่าต่อก็เห็นสิ่งหนึ่งลอยมาตุ๊บป่องๆ ขันทองใช้พายพลิกดูกลายเป็นศพชายคนหนึ่ง แมงเม่าตกใจสุดขีดโผกอดซุกหน้ากับอกขันทองแน่น ขันทองตกใจที่เห็นศพ แต่ตกใจและประหม่ายิ่งกว่าที่ถูกแมงเม่ากอดซบอก!
เพื่อมิให้กระทบถึงขันทอง แมงเม่าจึงไปแจ้งพบศพที่กรมเวียงแต่เพียงผู้เดียว พระยากำแหงเจอแมงเม่าที่กรมเวียงจึงพามาส่งที่เรือน ระหว่างทางแมงเม่าถามว่าท่านรู้จักผู้ตายหรือไม่ พระยากำแหงบอกว่าไม่รู้จัก คงจะเป็นพวกนักเลงหัวไม้ฆ่ากันเอง
แต่พอกลับมาประชุมที่ทิมมหาดเล็ก พระยากำแหงแจ้งว่าได้รับคำยืนยันจากกรมเวียงและกลาโหมว่าคือศพของหมื่นชำนาญไพรสนธ์ อุปนิกขิตที่กลาโหมที่ส่งเป็นสายอยู่ทางหัวเมืองด้านตะวันตกมานานปี แลเพิ่งกลับอโยธยาเมื่อบ่ายนี้เอง
พระยากำแหงพิเคราะห์ว่าการตายของหมื่นชำนาญเป็นไปได้ที่ว่าเพราะฐานะอุปนิกขิตถูกเปิดเผย พระยากำแหงย้ำปรามว่าขันทีเป็นกลุ่มเดียวที่จารบุรุษจะลอบเข้ามาได้โดยง่ายพลางปรายตาไปทางขันทอง แต่ขันทองก็สงบนิ่งหน้าเฉยไร้พิรุธ
เจ้าจอมเพ็ญบอกขันทองว่าไปประพาสป่าครั้งนี้ตนจะไปด้วย เพราะเกรงคนอื่นจะแย่งเอาหน้าและให้ขันทองชักชวนแมงเม่าไปด้วยเพราะฝ่ายในเราคงมีการประชันกลบทกันเหมือนทุกคราว แมงเม่าเฉลียวคิดว่า
เหตุใดกรมขุนวิมลจึงไม่ชักชวนเอง แต่มิ่งกับชื่นเห็นว่าเจ้าจอมท่านชวนมาก็อย่าบิดพลิ้ว หาไม่จะเป็นการไม่เคารพ แมงเม่าจึงไม่มีทางบ่ายเบี่ยง
7-8 วันต่อมา ที่หน้าตำหนักเจ้าจอมเพ็ญ ขบวนตามเสด็จประพาสของเจ้าจอมเพ็ญก็เคลื่อนออกจาก
หน้าตำหนักเจ้าจอมเพ็ญอย่างยิ่งใหญ่อลังการ เจ้าจอมเพ็ญนั่งเสลี่ยงไปราวกับนางพญา...
ooooooo










