ตอนที่ 12
“ผมคิดว่าไม่ เสือคล้อยแม้โหดเหี้ยมแต่เป็นคนที่รักษาคำพูดเสมอ อย่าห่วงเลยครับ”
อรรถมั่นใจในระดับหนึ่ง เดินนำไปเผชิญหน้ากับพวกคล้อย “เจอกันอีกครั้งนะเสือคล้อย”
“ทั้งที่ไม่อยากเจอสักเท่าไหร่ใช่ไหมปลัด”
“มันอยู่ที่สถานการณ์มากกว่า เสือคล้อยเป็นฝ่ายอยากให้ฉันมาเองไม่ใช่เหรอ”
“งั้นเข้าเรื่องเลยดีกว่า ปลัดได้ของมาใช่ไหม”
“แน่นอน ได้มาแน่ แต่เสือคล้อยก็ต้องทำตามข้อตกลงที่ฉันต้องการเหมือนกัน”
“ข้าจะตกลงก็ต่อเมื่อของนั่นมันใช่ตัวจริง”
“จะยากอะไร ก็เอาไปเลยสิ ดอน...ให้เขาไป”
ดอนหยิบหนังเสือออกมาให้เห็น คล้อยสั่งไอ้โชนไปรับมาให้อากาพะโยดู
“ไม่ต้องดูข้าก็รับรู้ได้ว่านั่นคือของจริง หนังเสือของข้า”
คล้อยยิ้มสมใจ เจรจากับอรรถว่า “ตกลงข้าจะจัดการไอ้สมิงตะวันตามที่ปลัดต้องการ...ตามสัญญา”
“ฉันจะเชื่อใจเสือคล้อยอีกสักครั้ง และขออีกอย่าง เรื่องบาดหมางระหว่างเราวันนี้ขอให้มันจบ ไม่ติดใจอะไรกันอีก ว่าไง”
“ได้...ข้าไม่อยากเปิดศึกหลายด้านอยู่แล้ว”
“เหมือนกัน...ดี!! วันนี้การเจรจาถือว่าสำเร็จ”
ทันใดนั้นแคล้วส่งเสียงร้องด้วยความเจ็บเพราะอาการกำเริบ คล้อยไม่รอช้าให้อากาพะโยรีบรักษา
“ขอหนังเสือให้ข้า แล้วจับลูกเอ็งไว้ให้นิ่ง ข้าจะทำให้”
คล้อยกับสมุนช่วยกันจับแคล้วไม่ให้ดิ้นทุรนทุราย อากาพะโยคลี่หนังเสือวางบนหัวแคล้วแล้วหลับตาบริกรรมคาถาในใจ ครู่เดียวมีแสงสว่างวาบที่ยันต์หนังเสือ ทุกคนมองแปลกใจ รวมทั้งกลุ่มของอรรถด้วย
ขณะนั้นอูซานกับตะวันอยู่กันคนละสถานที่ แต่ทั้งคู่รู้สึกอย่างเดียวกันคือจุกเจ็บที่อกแทบทรงตัวไม่อยู่ ถวิลเห็นลูกชายมีอาการแปลกๆก็ตกใจวิ่งเข้ามาประคอง แต่ไม่นานอาการนั้นก็หายไป เช่นเดียวกับอูซาน เขานึกถึงพ่อและคิดว่าต้องมีใครทำอะไรสักอย่าง
อาการนั้นเกิดขึ้นกับคนที่เป็นเสือสมิงหรือมีเชื้ออยู่ในตัวอย่างไอ้แคล้ว แต่ครู่เดียวก็กลับมาเป็นปกติ โดยเฉพาะไอ้แคล้วที่หน้าตาสดใสมีพละกำลังขึ้นมาอย่างประหลาด
“พ่อ...ข้าหายแล้วใช่ไหม”
“ใช่ เอ็งรอดแล้วไอ้แคล้ว”
“ข้าไม่เคยรู้สึกดีแบบนี้มาก่อนเลย” แคล้วกระดี๊กระด๊า
อรรถแอบพูดกับดอนว่าไม่เห็นกับตาคงไม่เชื่อ หนังเสือไม่ธรรมดาจริงๆ แบบนี้เองเสือคล้อยถึงยอมแลก
แคล้วจับตามองไปที่เจนจิตก่อนจะพูดกับพ่ออย่างคึกคะนองว่า “ตอนนี้ในตัวข้าเหมือนมันจะระเบิด ข้าอยากปลดปล่อยพลังหนุ่มของข้าเหลือเกินพ่อ”
“หมายความว่าไง”
“ข้าต้องการผู้หญิง ข้าจะไม่ไหวแล้วพ่อ นังนั่น ข้าต้องการมัน”










