ตอนที่ 9
นภาภูมิใจที่สาลินีไม่ปัดความรับผิดชอบหรือหนีปัญหา ต่างจากเอกพงษ์ซึ่งแวะมาเยี่ยมอดีตแฟนสาว ไม่เห็นด้วยและพยายามกล่อมให้เธอกลับกรุงเทพฯ เพื่อความปลอดภัย
สาลินียิ้มอ่อน “ขอบคุณพี่เอกที่เป็นห่วง แต่สาตัดสินใจแล้วค่ะ สาจะสู้ สาไม่ใช่นักรบแต่สาจะสู้ด้วยการปกป้องคนไข้ของสาด้วยการรักษาบัวหลวงให้หายดี”
เอกพงษ์อ้าปากจะค้านแต่นภาสวนขึ้นก่อน
“ยอดเยี่ยมมากครับหมอสา...ถ้าประเทศชาติเรามีคนคิดแบบหมอสาสักครึ่งนึง ประเทศเราเจริญกว่านี้แน่ๆครับ เราต้องช่วยกันครับ ไม่ใช่เอาตัวรอด เห็นว่าเสี่ยงก็ให้คนอื่นทำ...ไปเถอะหมอสา ผมไปส่งหมอสาดีกว่า...”
ooooooo
นภา สาลินีและเอกพงษ์แวะมาให้ปากคำที่สถานีตำรวจแล้วแยกกันกลับ สารวัตรเข็มกับดาบใหญ่จึงหันหน้าหากันและเปิดประชุมวิเคราะห์เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
“เกิดอะไรขึ้นกันแน่ครับสารวัตร...ทำไมพวกมันต้องพยายามฆ่าบัวหลวงขนาดนั้น”
“บัวหลวงต้องรู้เรื่องอะไรสักอย่างที่สำคัญมากๆ”
“ไอ้ขวานที่ตกอยู่น่ะ ถ้าเราเดาไม่ผิด มันเป็นของนักฆ่าอันดับหนึ่งของไตรพยัคฆ์นะครับ”
“ใช่ดาบ...สิ่งที่บัวหลวงรู้น่ะสำคัญมากๆ แค่นี้ยังไม่พอ ยังมีเรื่องของชาติ ลำชี อีก...ไม่อยากเชื่อเลยว่าที่สุดแล้วมันก็เป็นคนของไตรพยัคฆ์จริงๆ”
“ผมรู้สึกว่าในบรรดาคนมีฝีมือที่เราเจอมา...ไอ้ชาตินี่แหละอันตรายที่สุด”
“ผมก็คิดแบบนั้นดาบ...อันตรายที่สุดคือมัน...ชาติ ลำชี!”
ชาติ ลำชี ไม่ได้รับรู้เรื่องตัวเองถูกสงสัย หลังถูกลูกน้องจ่าเทพฟาดสลบก็ไปฟื้นอีกครั้งในห้องขัง
ป๋องกับเสือพรานอยู่ที่นั่นด้วย ไม่มีใครรู้ว่าที่นี่คือที่ไหนจนกระทั่งจ่าเทพเดินมาเปิดประตูให้
“ขอต้อนรับสู่...รังเสือ”
“รังเสือ...หรือว่าจ่าเทพหมายถึง...”
“ใช่...ที่นี่คือที่ตั้งของไตรพยัคฆ์ องค์กรนอกกฎหมายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของประเทศไทย”
“ไตรพยัคฆ์...ที่นี่คือไตรพยัคฆ์”
“ใช่...ดูซะ...ดูให้เต็มตา ที่นี่แหละสวรรค์บนดิน!”
จ่าเทพพาชาติ ป๋องและเสือพรานเดินดูรอบรังเสือหรือค่ายไตรพยัคฆ์ อาณาเขตกว้างใหญ่ไพศาลท่ามกลางป่าลึกที่ยากจะค้นหาทำให้สามหนุ่มอ้าปากค้าง จ่าเทพมองมาขำๆ ก่อนแนะนำสถานที่ต่างๆ ด้วยความภาคภูมิใจ
“ที่นี่มีโรงอาหารสี่โรง...ทุกที่เป็นแบบนี้เหมือนกันหมด คนทำงานที่นี่ได้ค่าจ้างไม่เท่ากัน แต่ทุกคนจะได้ทานอาหารแบบเดียวกัน ในที่ที่เดียวกัน ไม่มีการแบ่งแยกจนรวย ลูกจ้างหรือนายจ้าง”
นอกจากโรงอาหารขนาดใหญ่ รังเสือยังมีโรงพยาบาลที่เลือกรักษาทุกคนอย่างเท่าเทียม ไม่มีใครได้สิทธิพิเศษ เช่นเดียวกับศาลที่จ่าเทพการันตีว่าเป็นศาลยุติธรรมที่สุดในโลก
รังเสือหรือค่ายไตรพยัคฆ์ถูกตัดขาดจากโลกภายนอก ไม่มีใครได้รับอนุญาตให้พกมือถือหรือใช้อุปกรณ์ทันสมัย ชาติกับป๋องลอบมองหน้ากันเครียดๆ ต่างจากเสือพรานที่ยิ้มกว้างด้วยความชอบใจ
“ผมว่าที่นี่คือดินแดนในอุดมคติของทุกคน”
จ่าเทพยิ้มให้เสือพราน “แกชอบใช่ไหม”
“ชอบเหรอ...ผมรักที่นี่เลยต่างหาก ผมรักความเท่าเทียมกัน ผมเกลียดอภิสิทธิ์ชน เพราะฉะนั้นที่นี่คือบ้านของผม...ผมพร้อมจะปกป้องที่นี่ด้วยชีวิตของผม”










