ตอนที่ 9
“บอกชื่อมา...แกเป็นใคร จะฆ่าไพรทำไม”
“พวกแกรู้แค่ว่าฉันเป็นคนของไตรพยัคฆ์ก็พอ...
ถ้าฉลาดก็รีบขอโทษแล้วปล่อยฉันไปซะ”
“ทำไมไตรพยัคฆ์ต้องฆ่าไพร คนเพลง”
ลูกน้องเสือโบกเพิ่งเห็นป้ายชื่อสารวัตรเข็มก็เหยียดยิ้ม “อ้อ...แกเองเหรอสารวัตรเข็ม...เราจะฆ่าไพร คนเพลงเพราะแกไง ก็มันช่วยชีวิตแกไว้ ใครที่เข้ามาขวางทางไตรพยัคฆ์ มันต้องตาย!”
สารวัตรเข็มหน้าเครียด ถามเสียงเข้ม “แกรู้ได้ไงว่าไพรช่วยชีวิตฉัน”
“เราไม่ได้โง่เหมือนแกนี่หว่า”
เสือโบกเห็นท่าไม่ดีกลัวลูกน้องเผยความลับรีบสวมบทกำนันบุญเค้นคอให้บอกเรื่องคนที่มาช่วยไพร ลูกน้องหน้าซีดเกือบบอกเรื่องชาติแต่ไม่ทันได้อ้าปากก็ถูกกระสุนปริศนาปลิดชีพเสียก่อน!
ooooooo
ชาตินั่นเองมือปืนปริศนาปลิดชีพลูกน้องของเสือโบกตายคาสถานีตำรวจ ก่อนหอบสภาพใกล้หมดแรงกลับไปทำลายหลักฐานที่บาร์และจัดการนำศพคนร้ายไปฝัง
พวกตำรวจรวมทั้งเสือโบกในคราบกำนันบุญตกใจมากที่มีเหตุยิงแบบอุกอาจบนสถานี แต่ก็จับมือใครดมไม่ได้ ได้แต่ยืนมองหน้ากันเครียดๆ ก่อนจะแยกย้ายเมื่อใกล้ฟ้าสาง
กว่าชาติจะจัดการทุกอย่างเรียบร้อยก็เลยวันใหม่มาหลายชั่วโมง ทหารหนุ่มในคราบหมอนวดนอนหมดสภาพกลางบาร์ โชคดีที่ตุ๊กตุ๊กผ่านมาเห็นเลยพาไปพักที่บ้านและไปตามสาลินีมาดูอาการ
ตุ๊กตุ๊กเกรงว่าชาติอาจเกี่ยวข้องกับเหตุยิงกันบนโรงพักเมื่อคืนจึงพาตัวมาที่บ้าน สาลินีเห็นสภาพชาติแล้วเข่าอ่อน ภาพปู่ในอดีตตามหลอกหลอนเธออีกครั้ง เธอยังจำได้ว่าย่าต้องสติแตกแค่ไหนที่สูญเสียปู่อย่างไม่มีวันกลับ
สภาพของชาติทำให้สาลินีคิดเป็นอื่นไม่ได้ ชีวิตเขาคงเต็มไปด้วยเรื่องเสี่ยงตายอย่างที่เขาเคยบอก แพทย์สาวหนักใจมากแต่พยายามตั้งสติดูแลเขาจนฟื้นในอีกหลายชั่วโมงต่อมา
ชาติกวาดตามองรอบตัวงงๆ ก่อนจะเบิกตาโพลงเมื่อเห็นสาลินี
“คุณสา...นี่...ผมฝันไปอีกแล้วใช่ไหมครับเนี่ย”
“ทำไม...เคยฝันว่าฉันรักษาแผลให้คุณหรือไง”
“ครับ...เฮ้อ...แปลกแฮะ ฝันเหมือนกันสองคืนติดเลย”
“ฝันร้ายใช่ไหม”
“เปล่า...ฝันดีที่สุดในชีวิต ฝันดีจนไม่อยากตื่นสู่โลกความเป็นจริงเลย”
“ทำไม...โลกความเป็นจริงมันแย่มากเหรอไง”
“ครับ...โลกความเป็นจริงของผมมันทั้งเศร้าและโหดร้าย”
สาลินีหน้าเสียก่อนจะแสร้งตีหน้านิ่ง “งั้นก็เสียใจด้วยนะคุณชาติ ลำชี...ที่นี่ เวลานี้ คือโลกความเป็นจริง...วันนี้ฉันรักษาคุณ...แล้วคืนก่อนฉันก็เป็นคนรักษาคุณ”
ชาติอึ้งไปครู่หนึ่ง ยิ้มบางๆ “ไม่รู้ชาติที่แล้วผมทำบุญด้วยอะไร ชาตินี้จึงได้มีวาสนาขนาดนี้”
“ขอเตือนว่านี่สุดความสามารถของฉันแล้ว ถ้าคืนนี้คุณยังหาเรื่องเจ็บตัวอีก ต่อให้มีวาสนาฉันก็รักษาไม่ไหว”
“คุณสา...ขอบคุณมากนะครับ”
“ไม่เป็นไร เก็บคำขอบคุณไว้เถอะ...ฉันเต็มใจจะรักษาคุณเสมอ...ชาติ ลำชี”
แววตาเศร้าๆของสาลินีทำให้ชาติใจอ่อนยวบ เอื้อมไปกุมมือเธอและสารภาพเสียงเรียบ
“คุณสา...ถึงตอนนี้...ไม่มีประโยชน์ที่ผมจะปฏิเสธความจริง...ผมรักคุณ...คุณสา”
สาลินียิ้มรับบางๆ ไม่ยินดียินร้ายจนเขาเริ่มใจเสีย
“คุณสาคงรู้ใจผมแล้ว”
“ค่ะ...แล้วคิดว่าคุณก็คงรู้ว่าฉันก็รักคุณ”










