ตอนที่ 10
“ทำไมจะไม่ดีล่ะ”
“ก็งานนี้จัดที่วังอภัยรัตน์ ผมกลัวว่าคนจะรื้อฟื้นซุบซิบขึ้นมาอีก”
“นั่นแหละ พ่อถึงอยากให้ชายไป พาเมียไปด้วย ไปแสดงตัวให้รู้ทั่วกันว่าชายกับหนูผึ้งยังรักกันดี ไม่ได้ไปยุ่งเกี่ยวกับผู้ชายอื่น ใครที่คิดนินทาจะได้ไม่มีเรื่องพูด”
ชายใหญ่ฟังแล้วนิ่งไปอย่างคล้อยตาม...ส่วนนวลที่แยกออกมา เธอเข้าครัวช่วยบ่าวทำอาหารถวายท่านพ่อ หญิงเล็กมาได้ยินคำว่า “ท่านพ่อ” จากปากพี่สะใภ้ก็แถเข้ามาหาเรื่องทันที
“ใครใช้ให้แกเรียกว่าท่านพ่อ ระวังเหาจะขึ้นหัว”
“ท่านพ่อประทานอนุญาตให้ฉันเรียกค่ะ รับสั่งว่าฉันมีฐานะเป็นลูกอีกคนนึง”
“แกก็เลยจะเอาใจคนป่วย หวังว่าจะได้มีชื่อห้อยท้ายรับมรดกในวังนี้งั้นล่ะสิ”
“ถึงไม่ทำอย่างนั้น ฉันก็ย่อมมีสิทธิ์อยู่แล้วนี่คะ ในฐานะภรรยาของคุณชาย คุณหญิงเล็กสิคะ ถ้าแต่งงานออกไปก็อาจจะกลายเป็นคนอื่น” นวลยิ้มซื่อแล้วหันกลับไปหั่นผักต่อ หญิงเล็กไม่พอใจปราดเข้ามากระชากมีดไปจากมือ
“เผยความหน้าด้านของตัวเองออกมาแล้วใช่ไหม แกอย่าคิดว่าจะกำจัดฉันออกไปง่ายๆนะนังผึ้ง เพราะฉันจะอยู่เป็นมารความสุขแกอย่างนี้แหละ”
หญิงเล็กเงื้อมีดข่มขู่ นวลหวาดกลัวแต่ก็พยายามยื้อแย่งมีดกลับ บ่าวอยู่ในเหตุการณ์ตกใจทำอะไรไม่ถูก เอื้อยกับขิมวิ่งเข้ามาพร้อมกัน ร้องลั่นด้วยความตกใจ
เอื้อยจะเข้าไปช่วยนายของตนแต่โดนขิมขัดขาจนถลาล้มไป แต่แค่นั้นไม่ทำให้เอื้อยยอมแพ้ ลุกขึ้นคว้าไม้ตีพริกหรือสากกะเบือมาเงื้อง่าจะขว้างใส่หญิงเล็ก
“เอื้อยมาแล้วค่ะคุณผึ้ง ดูซิว่าใครหน้าไหนมันจะกล้าทำร้ายคุณ”
หญิงเล็กไม่กล้า ได้แต่ถลึงตาพองก๋าใส่เอื้อยอย่างโกรธจัด
ooooooo
ภัทรยศเอาของฝากจากพ่อตนมาให้พ่อของดาริกาถึงบ้าน ดาริกาไม่เต็มใจต้อนรับ ถามชายหนุ่มเสียงแข็งว่ามาทำไมไม่ทราบ
“คุณพ่อผมไปเมืองจีนมา ก็เลยฝากให้ผมเอาโสมมาให้คุณอาทั้งสอง”
“คิดว่าพวกฉันไม่มีปัญญาซื้อกินหรือไง นี่มันบ้านลี้ธรรมสกุลนะยะ”
“ผมรู้ครับว่าบ้านคุณรวยล้นฟ้า แต่นี่มันก็คือการ แสดงน้ำใจของเพื่อน คุณคงไม่เข้าใจมั้ง เพราะนอกจากหญิงเล็กคุณก็คงไม่มีเพื่อนที่ไหนให้แบ่งปัน” พูดแล้วภัทรยศเดินหนี ดาริกาหงุดหงิดตามไปตอแย
“อีตาบ้า ไม่หาเรื่องฉันซักวันจะตายไหม”
“ผมอยู่ของผมเฉยๆ มีแต่คุณนั่นแหละหาเรื่องผมเอง เอ๊ะ หรือว่าจริงๆคุณจะแอบรักผมอยู่ แต่ไม่กล้าบอก ก็เลยเอาพี่ชายใหญ่มาคอยบังหน้า”
“ยี้...พูดมาได้ไม่ดูหน้าตาตัวเอง คนอย่างคุณแค่ความเป็นเพื่อนฉันก็ไม่มีให้...เอามานี่ ฉันจะเอาไปให้คุณพ่อคุณแม่เอง คุณกลับไปได้แล้ว”
“เสียมารยาท ผมเอาของมาให้ก็ต้องได้กินน้ำกินท่าบ้างสิ”
“กลับไปกินที่บ้านคุณโน่นไป๊” ดาริกาแผดเสียง พ่อกับแม่ได้ยินรีบออกมาดู
“อ้าว คุณภัทรยศนี่เอง นึกว่าใครมาคุยกับยายดาวเสียงแจ้วๆ ทำไมไม่เชิญแขกเข้าบ้านล่ะยายดาว เสียมารยาทจริงลูกคนนี้”
ดาราตำหนิลูกสาวแล้วเชิญแขกเข้าบ้าน ดาริกาตามมานั่งอยู่ในห้องรับแขกด้วยสีหน้าเบื่อหน่าย ฟังพ่อแม่สนทนากับภัทรยศ
“ฝากขอบคุณคุณพ่อด้วยนะภัทรยศ วันไหนว่างๆคงต้องเชิญมาทานข้าวด้วยกันซักมื้อ”
“แล้วผมจะเรียนคุณพ่อครับ”
“ได้ยินว่าตอนนี้ที่บริษัทเปิดธุรกิจเพิ่มอีกแล้วหรือจ๊ะ ขยันกันจริงๆ”
“เป็นนิตยสารครับคุณอา ชื่อดาวประกาย เกี่ยวกับแฟชั่นความสวยความงามของผู้หญิง คุณพ่อตั้งใจจะใช้เป็นสื่อสำหรับมองหาดารานางแบบหน้าใหม่ๆด้วย”
“ดีจริง ฉลาดคิด แล้วได้นางแบบขึ้นปกหรือยังจ๊ะ ลูกสาวอาพอจะเข้าเกณฑ์ไหม” แม่พูดทีเล่นทีจริง แต่ดาริกาแย้งทันทีว่าตนไม่ได้อยากเป็นดารา “งั้นก็ไปทำงานกับคุณภัทรยศไหมล่ะ ยายดาวนี่จบเลขามานะคะ คุณภัทรยศมีเลขาหรือยัง”
ดาราเชียร์ลูกสาวตัวเองเต็มที่ ภัทรยศอมยิ้ม พูดถ่อมตัวว่า
“ผมไม่มีเงินพอจะจ้างเลขาดีกรีจากต่างประเทศหรอกครับ อีกอย่างคุณดาวก็ทำงานเป็นเลขาที่ไร่ของคุณชายภักดีนพดล เพื่อนสนิทผมอยู่แล้วด้วย”










