ตอนที่ 4
ขาดคำม่านฟ้าไฟฟ้าในบ้านก็ดับพึ่บ! ผีนวลทิพย์และเหล่าตุ๊กตาผีนั่นเองที่แผลงฤทธิ์สั่งสอนพวกพิชิต ม่านฟ้ากรีดร้องเสียงหลงเมื่อสบตาเหล่าตุ๊กตาผี แรงบีบอัดบางอย่างที่ลำคอทำให้เธอเหมือนจะขาดใจตาย พลันทุกอย่างก็หายวับพร้อมไฟฟ้าในบ้านที่สว่างไสวเหมือนเดิม
ม่านฟ้าเอะอะโวยวายว่าโดนตุ๊กตาผีหลอกแต่ไม่มีใครเชื่อ โดยเฉพาะจันกับพุดที่คิดว่าเมียเก็บคนสวยของพิชิตลูกชายคนโตนั้นตาฝาดไปเอง...
ooooooo
ไม่มีใครพูดเรื่องผีนวลทิพย์กับเหล่าตุ๊กตาผีอีกจนเช้าวันต่อมาเมื่อปลาอดใจไม่ไหวเม้าท์กับสายและธนิดา
“เชื่อปลาสิคะ ยัยคุณม่านฟ้าต้องเห็น...เอ่อ...วิญญาณคุณทิพย์”
ธนิดาส่ายหน้าไม่เชื่อ “ผีไม่มีในโลก เชื่อฉันเถอะ... ไม่ต้องกลัว”
“ถ้างั้นอะไรล่ะคะที่ทำให้คุณม่านฟ้าสติแตกขนาดนั้น”
“ถ้าวิญญาณน้าทิพย์มีจริงคงไม่ปล่อยให้พวกนั้นรังแกเราอยู่ได้หรอก”
“คุณทิพย์อาจไม่ใจแข็งพอที่จะทำร้ายคุณพิชิตก็ได้”
สายพูดตามที่คิดและเห็นมานาน ตลอดเวลาที่มีชีวิตนวลทิพย์รักและห่วงใยพิชิตเสมอ ไม่เคยระแวงด้วยซ้ำว่าสามีใหม่อย่างพิชิตจะหักหลังอย่างเลือดเย็นแบบนี้
พิชิตไม่ได้สะทกสะท้านความผิดที่ตัวเองก่อเพราะความโลภ กระนั้นก็รำคาญใจไม่น้อยที่ม่านฟ้าโวยวายไม่หยุด
“เมื่อคืนนังธนิดามันอ้างสิทธิ์ความเป็นเจ้าของบ้าน ฟ้าบอกตรงๆนะคะว่าฟ้าทนไม่ได้...บ้านนี้ต้องเป็นของเราค่ะ ไม่ใช่ของนังเด็กบ้านั่น”
“ใจเย็นๆสิ...ผมขอร้อง...ถ้าปราบผีคุณทิพย์ไม่ได้ก็อย่าเพิ่งหวังอะไร”
สมาชิกทุกคนในบ้านยกเว้นธนิดากับแป้งร่ำ
มองหน้ากันเครียดๆ พิชัยอดรำพึงลอยๆไม่ได้
“ขนาดอาจารย์สมิงยังปราบมันไม่ได้พวกเราจะทำยังไงกันล่ะทีนี้...”
ธนิดาหนีความวุ่นวายในบ้านไปปรับทุกข์กับ
ระวิวรรณที่วิ่งวุ่นกับร้านกาแฟเปิดใหม่
“ทำไมคนพวกนั้นถึงก่อเรื่องวุ่นวายไม่เว้นแต่ละวัน นิดน่าจะไล่ออกไปให้หมด”
ระวิวรรณบ่นด้วยความหงุดหงิดแทนเพื่อนรัก
อติรุจที่ตามธนิดามาด้วยอดเสนอความเห็นไม่ได้
“ถ้าไม่ไล่ออกไปคุณนิดก็น่าจะย้ายออกมา”
“ที่นั่นเป็นบ้านของแป้งร่ำนะคุณ ถ้าย้ายออกมาก็เท่ากับฉันยอมยกสมบัติของแป้งร่ำให้คนพวกนั้นน่ะสิ”
ธนิดายืนกรานไม่ย้ายออก อติรุจกับระวิวรรณเหนื่อยใจมาก เช่นเดียวกับคมสันที่เครียดเรื่องความปลอดภัยของเธอกับแป้งร่ำหากยังรั้นอยู่ที่บ้านนวลทิพย์










