ตอนที่ 4
“หนูอยากกลับบ้านใช่ไหม เดี๋ยวทำบุญให้คุณแม่ก่อนนะคะ เสร็จแล้วพี่นิดจะพาแป้งร่ำกลับบ้านนะคะ”
อติรุจ ระวิวรรณและคมสันแวะมาทำบุญกับธนิดาและแป้งร่ำด้วย ทั้งหมดเข้าไปทำสังฆทานในโบสถ์รำลึกถึงนวลทิพย์ให้ไปสู่ภพภูมิที่ดี ไม่คาดคิดเลยว่าวิญญาณที่นึกถึงนั่งร้องไห้อยู่หน้าวัด
หลวงพ่อรับของสังฆทานและตั้งจิตสวดภาวนา ก่อนถอดจิตไปหาผีนวลทิพย์ที่หน้าประตูวัด
“มาทำอะไรอยู่ตรงนี้เล่าโยม”
ผีนวลทิพย์เห็นหลวงพ่อ เห็นแววตาท่านเปี่ยมด้วยเมตตาจิตก็ก้มกราบ
“อิฉันเป็นวิญญาณเร่ร่อนเจ้าค่ะ ลูกกับหลานสาวมาทำบุญให้ แต่อิฉัน...เข้าไปไม่ได้เจ้าค่ะ”
“ได้สิ...วัดเป็นเขตอภัยทาน ขอเพียงมีจิตที่บริสุทธิ์เท่านั้น อาตมาจะสอนให้โยมทำกรรมฐานฝึกจิตให้เป็นสมาธิ วิญญาณจะได้อยู่อย่างสงบเพื่อรอวันเวลาของโยม”
“หมายความว่าท่านจะให้ดิฉันอยู่ที่วัดหรือเจ้าคะ”
“ที่วัดสงบ ปลอดภัย จะไม่มีใครทำอันตรายโยมได้อีก”
“แต่ดิฉันเป็นห่วงลูก แก...แกกำพร้าทั้งพ่อทั้งแม่”
“ถ้าคิดถึงโยมก็ไปหาได้ทุกเวลา แต่เขากับโยมอยู่กันคนละภพแล้ว จงละห่วง ขจัดความพยาบาทที่
มันก่อตัวขึ้นในใจโยมทิ้งไปซะ...เวรย่อมระงับด้วยการไม่จองเวร”
“หลวงพ่อทราบ...”
“เข้าไปในวัดกับอาตมาก่อนเถอะ อย่าเป็นวิญญาณเร่ร่อนอยู่ตรงนี้เลย”
ooooooo
หลวงพ่อถอดจิตกลับมาที่ร่างในโบสถ์ พอใจเมื่อเห็นผีนวลทิพย์ตามมารับบุญด้วย ท่านยิ้มให้พวกธนิดาแล้วเปรยกับผีนวลทิพย์ หวังเตือนสติให้ปล่อยวางจากความแค้น
“บุญกุศลจะคุ้มครองโยมจากสิ่งชั่วร้ายทั้งปวง ไม่ต้องห่วงอะไรทั้งนั้น หากตั้งอยู่ในบุญแล้วบุญย่อมคุ้มครองให้พ้นจากอุปสรรค”
พวกธนิดาไม่มีใครคาดคิดว่าหลวงพ่อจะตั้งใจพูดกับผีนวลทิพย์ ก้มกราบและพากันกลับไป ผีนวลทิพย์มองตามยิ้มๆก่อนเริ่มหัดฝึกกรรมฐานตามคำสอนของ
หลวงพ่อ แต่จนเย็นย่ำผีสาวก็ปลดระวางความแค้นไม่ได้
“ดิฉันยังว้าวุ่นเหลือเกินเจ้าค่ะ ห่วงทั้งลูก ทั้งงาน ทั้ง...”
หลวงพ่อยิ้มอย่างมีเมตตาให้กำลังใจผีสาว
“ค่อยเป็นค่อยไป...อะไรที่ไม่ใช่ของเรามันก็ไม่ใช่ของเรา ทุกสิ่งล้วนเป็นอนิจจัง”
“เจ้าค่ะ...อิฉันสงสัยว่าเมื่ออิฉันสิ้นลม เหตุใดวิญญาณถึงไปสิงอยู่ในตุ๊กตาหยกได้เล่าเจ้าคะ”
“จิตของโยมผูกพันอยู่กับลูกสาว เมื่อวิญญาณออกจากร่างจึงวนเวียนอยู่ใกล้เขา”
“แล้วทำไมถึงต้องเป็นตุ๊กตาหยกล่ะเจ้าคะ”
หลวงพ่ออธิบายอย่างใจเย็น “นอกจากลูกสาวแล้วจิตโยมยังผูกพันกับตุ๊กตาหยกโบราณซึ่งมีพลังในตัวมหาศาลถึงสามารถปกป้องโยมจากหมอผีได้ยังไงเล่า”
“หลวงพ่อทราบ...”










