ตอนที่ 4
“พวกคุณทำแบบนี้กับเด็กตัวเล็กๆได้ยังไง ใจร้าย...ออกไปนะ ออกไปให้หมด!”
ooooooo
พวกพิชิตและอาจารย์สมิงจำต้องล่าถอย ธนิดาโกรธจัดเช่นเดียวกับผีนวลทิพย์ที่ประกาศกร้าว
“แม่ต้องทำอะไรสักอย่างก่อนที่จะสายเกินไป”
ผีนวลทิพย์ออกจากตุ๊กตาหยกสำเร็จหลังพวกพิชิตกลับไปแล้ว เหล่าตุ๊กตาผีขยับเขยื้อนได้เหมือนเดิม ทั้งหมดเป็นห่วงแป้งร่ำมากเพราะนับวันพวกพิชิตก็ยิ่งเล่นหนักข้อขึ้นทุกที
อาจารย์สมิงเจ็บใจที่ปราบผีนวลทิพย์ไม่ได้ ได้แต่มอบสายสิญจน์ให้พิชิตกับม่านฟ้าไว้ป้องกันตัว
“คล้องไว้...สายสิญจน์นี่จะช่วยป้องกันผีร้ายได้ ผีเมียเก่าคุณยังอยู่ในบ้านนี้แหละ เพียงแต่ผมยังหามันไม่เจอ”
“หลบอาจารย์ได้แสดงว่าคุณทิพย์ก็ต้องมีฤทธิ์มากพอตัว”
“ก็อาจใช่...หรือบางทีอาจมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์คอยคุ้มกันมันอยู่”
“สิ่งศักดิ์สิทธิ์งั้นเหรอครับ”
“ใช่...คุณพอจะนึกออกไหมว่าบ้านนี้มีของขลังอะไรบ้าง”
พิชิตนิ่งคิดแต่ไม่ได้คิดถึงตุ๊กตาหยกเลย “พระหรือเปล่าครับอาจารย์”
อาจารย์สมิงส่ายหน้า มั่นใจว่าต้องเป็นของขลังอย่างอื่น “ถ้าเป็นพระผมต้องสัมผัสได้แต่นี่ผมแตะต้องมันไม่ได้ด้วยซ้ำ เอาล่ะ...วันนี้ต้องกลับก่อน ยังไงผมต้องกลับมาปราบมันแน่!”
พิชิตกับพิชัยจะไปส่งอาจารย์สมิง ธนิดาที่โกรธจัดปรี่มาขวาง
“หวังว่าคงไม่กลับมาอีกนะเพราะบ้านนี้เป็นของแป้งร่ำ และฉันเป็นผู้ปกครองแป้งร่ำ...ฉันไม่อนุญาต!”
ม่านฟ้าเบ้หน้าโต้เสียงหยัน “อาจารย์มาก็เพื่อความสงบสุขของบ้าน พวกเราหวังดีนะคุณนิด”
“ด้วยการขู่ตะคอกและทำร้ายยัยแป้งร่ำน่ะเหรอคะ ...เรียกว่าหวังดี”
พิชิตเห็นท่าไม่ดี พาอาจารย์สมิงไปขึ้นรถพร้อมพิชัย เช่นเดียวกับอติรุจที่ขอตัวกลับหลังส่งแป้งร่ำเข้านอนแล้ว ธนิดาถอนใจหนักหน่วง ย้ำกับม่านฟ้า จันและพุดเสียงเข้ม
“อย่าให้ฉันรู้อีกนะว่ารังแกแป้งร่ำ ฉันจะไม่ไว้หน้าใคร ทั้งนั้น”
พุดพยายามไกล่เกลี่ย “นี่หนูนิด...ฉันน่ะหัวหงอกแล้วนะ จะพูดจะจาก็เกรงใจกันบ้าง”
“ก็เพราะเกรงใจคนผมสองสีน่ะสิถึงไม่ไล่พวกคุณออกไปซะคืนนี้เลย”
ม่านฟ้าเหลืออดโพล่งไม่ไว้หน้า
“ไม่ว่าจะคืนนี้หรือคืนไหน...ฉันก็ไม่ไปไหนทั้งนั้น คอยดูนะ...บ้านนี้แล้วก็สมบัติทั้งหมดต้องเป็นของฉัน!”










